คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้ว แต่ผู้เช่ายังคงครองทรัพย์สินอยู่แลผู้ให้เช่าก็รู้ไม่ทักท้วงให้ถือว่าได้ทำสัญญากันใหม่โดยไม่มีกำหนดเวลาเช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทำหนังสือสัญญาต่อกันภายหลังผู้เช่าและผู้ให้เช่าตกลงเรื่องค่าภาษีโรงร้านกันใหม่ แต่ไม่ได้ทำ เป็นหนังสือดังนี้จะขอให้บังคับตามข้อตกลงใหม่นั้นไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้จำเลยทำสัญญาเช่าตึกเลขที่ ๙๘๗ ของโจทก์มีกำหนด ๓ ปีนับแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธุ์ พ.ศ.๒๔๗๐ ค่าเช่าเดือนละ ๓๖๐ บาทในสัญญาข้อ ๒ มีว่าเมื่อครบกำหนด ๓ ปีแล้วผู้เช่ามีสิทธิจะขอเช่าต่อไปได้อีก ๒ ปี แลในสัญญาข้อ ๑๕ มีความว่าภาษีโรงร้านหรือภาษีอากรผู้เช่าเป็นฝ่ายต้องเสียเอง
จำเลยได้อยู่ในที่เช่านี้ตลอดมาจนถึงเดือนมิถุนายนพ.ศ.๒๔๗๖ รวมเวลา ๕ ปี ๔ เดือน แลได้ชำระค่าเช่าตลอดมา แต่ใน ๒ ปีหลังได้มีการลดค่าเช่าลงเป็นเดือนละ ๒๕๐ บาท โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญากันใหม่ส่วนค่าภาษีโรงร้านปี พ.ศ.๒๔๗๔ จำเลยไม่ได้เสีย โจทก์ต้องเสียเป็นจำนวน ๕๕๖ บาท ๘๗ สตางค์ โจทก์ต้องเสียเป็นจำนวน ๕๕๖ บาท ๘๗ สตางค์ แลสำหรับ พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้มีการประเมินแล้วเป็นเงิน ๔๕๐ บาท แต่ยังไม่ได้เสีย
โจทก์จึงเรียก ค่าเช่าประจำเดือน พฤศจิกายนพ.ศ.๒๔๗๖ เป็นเงิน ๒๕๐ บาท กับค่าภาษีโรงร้านสำหรับปี พ.ศ.๒๔๗๔ – ๒๔๗๕ และสำหรับเดือนเมษายน พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๖ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน ๑๓๑๙ บาท ๓๗ สตางค์
จำเลยต่อสู้ว่า ค่าภาษีโรงร้านตั้งแต่พ.ศ.๒๔๗๔ และต่อ ๆ มา โจทก์จำเลยตกลงกันว่าโจทก์จะเป็นผู้เสีย จำเลยไม่ต้องเสีย และการเช่าในตอนหลังเมื่อครบสัญญาเดิมแล้วไม่ได้มีหนังสือเช่าเป็นหลักฐาน โจทก์ฟ้องไม่ได้ตามประมวลแพ่ง ฯ ม.๕๓๘
ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลแพ่ง ฯ ม.๕๗๐ ในเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่า ผู้เช่ายังคงครองทรัพย์อยู่ ให้ถือว่าทำสัญญากันใหม่โดยไม่มีกำหนดเวลา เห็นว่าเมื่อสัญญาเช่าเดิมยังคงใช้ได้ตามมาตรานี้ จำเลยจะยกเอาข้อตกลงกันด้วยวาจามาลบล้างหนังสือสัญญาเช่านั้นไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ใช้เงินตามโจทก์ฟ้อง

Share