คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาซื้อเครื่องรับส่งวิทยุ วี เอชเอฟ/ เอฟ เอ็ม แบบกระเป๋าหิ้วยี่ห้อเทเลคอม แบบ ที 161 จำนวน 21 ชุด จากบริษัทจำเลยมีรายละเอียดดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 ตามสัญญาซื้อขายข้อ 2 มีความว่า “สิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ ผู้ขายจะยอมขายให้ตามราคาดังกล่าวในข้อ 1 และรับรองว่าจะส่งสิ่งของให้เหมือนตามแค๊ตตาล๊อกและรายละเอียดท้ายสัญญาทุกประการ ฯลฯ” และข้อ 3 มีว่า “ลักษณะของสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ นอกจากให้เหมือนตามรายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกดังกล่าวในข้อ 2 ผู้ขายยอมรับรองอีกว่าเมื่อตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งประการใด ต้องให้เหมือนตามรายการละเอียดทุกประการ” และก่อนทำสัญญาซื้อขายฝ่ายโจทก์จัดให้มีการประกวดราคาระบุแต่ชนิดเครื่องรับส่งวิทยุ วี เอช เอฟ/ เอฟ เอ็ม แบบกระเป๋าหิ้ว จำนวน 21 ชุด ต่อเมื่อบริษัทจำเลยประมูลได้แล้วจึงได้ทำสัญญาซื้อขายหมาย จ.1 ขึ้น และได้กำหนดรายการสิ่งของที่ตกลงจะซื้อขายและแค๊ตตาล๊อกแนบไว้ท้ายสัญญา การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้ เป็นการซื้อขายตามเงื่อนไขเรียกประกวดราคาของโจทก์ ไม่ใช่บริษัทจำเลยพรรณาถึงเครื่องรับส่งวิทยุที่เสนอขายให้โจทก์แล้วโจทก์ยอมรับซื้อ นอกจากนี้การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้บริษัทจำเลยยังกำหนดให้โจทก์ตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้เหมือนตามรายการละเอียดและชนิดของ ๆ ที่จะซื้อนั้นก่อน โดยบริษัทจำเลยให้โอกาสโจทก์ตรวจสอบทดลองคุณสมบัติของเครื่องรับส่งวิทยุตามประกาศประกวดราคาของโจทก์ ก่อนการส่งมอบว่าตรงตามรายละเอียดและชนิดของเครื่องรับส่งวิทยุที่โจทก์ซื้อหรือไม่ รายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกที่แนบไว้ในสัญญาจึงเป็นรายละเอียดประกอบสัญญาซื้อขายเท่านั้น การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุดังกล่าวจึงเป็นการซื้อขายธรรมดา หาใช่เป็นการขายตามคำพรรณาไม่ ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอ่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำเครื่องรับส่งวิทยุมาส่งมอบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2512 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 23 กันยายน 2517 ยังไม่เกิดสิบปีนับแต่วันส่งมอบ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2521)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ตกลงซื้อเครื่องรับส่งวิทยุ วี เอช เอฟ/ เอฟ เอ็ม แบบกระเป๋าหิ้ว ยี่ห้อเทเลคอม ฯลฯ จำนวน ๒๑ ชุด เป็นเงิน ๘๐,๗๔๕ บาท จากจำเลย โดยมีข้อสัญญาปรากฏตามสำเนาสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย ๑ ท้ายฟ้อง หลังจากทำสัญญาแล้วจำเลยไม่ส่งมอบเครื่องรับส่งวิทยุให้โจทก์ตามกำหนด โดยจำเลยเพิ่งส่งมอบเครื่องรับส่งวิทยุ เมื่อพ้นกำหนดไปแล้ว ๑๐๕ วัน เจ้าหน้าที่โจทก์ได้ตรวจสอบทดลอง ปรากฏว่าคุณภาพไม่ถูกต้องตามรายละเอียดในสัญญา ไม่สามารถใช้ในราชการได้ตามต้องการ โจทก์แจ้งให้จำเลยแก้ไข จำเลยเพิกเฉย โจทก์จึงปฏิเสธไม่ยอมรับเครื่องวิทยุดังกล่าวและถือว่าจำเลยเป็นผ่ายผิดสัญญา ต้อชำระค่าปรับให้โจทก์ตามข้อตกลง โจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว และได้แจ้งให้จำเลยทราบแล้วด้วย จึงขอให้บังคับให้จำเลยชำระค่าปรับให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าปรับใด ๆ จากจำเลย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าปรับจำนวน ๒๐,๑๘๕ บาท ื๕๐ สตางค์ แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๑ โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุ ฯลฯ จากบริษัทจำเลยดังเอกสารหมาย จ.๑ ตามสัญญาข้อ ๒ มีความว่า “สิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ ผู้ขายจะยอมขายให้ตามราคาดังกล่าวในข้อ ๑ และรับรองว่าจะส่งสิ่งของให้เหมือนตามแค๊ตตาล๊อกและรายละเอียดท้ายสัญญาทุกประการ ฯลฯ” และข้อ ๓ มีความว่า “ลักษณะของสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ นอกจากให้เหมือนตามรายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกดังกล่าวในข้อ ๒ ผู้ขายยอมรับรองอีกว่าเมื่อตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งประการใด ต้องให้เหมือนตามรายการละเอียดทุกประการ” และก่อนทำสัญญาซื้อขาย ฝ่ายโจทก์จัดให้มีการประกวดราคาระบุชนิดเครื่องรับส่งวิทยุ วี เอช เอฟ/ เอฟ เอ็ม แบบกระเป๋าหิ้วจำนวน ๒๑ ชุด ต่อเมื่อบริษัทจำเลยประมูลได้แล้ว จึงได้ทำสัญญาซื้อขายหมาย จ.๑ ขึ้น และได้กำหนดรายการสิ่งของที่ตกลงจะซื้อขายและแค๊ตตาล๊อกแนบไว้ท้ายสัญญา และวินิจฉัยว่าเมื่อข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าว ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ได้พิเคราะห์สัญญาซื้อขายหมาย จ.๑ และข้อเท็จจริงก่อนที่จะทำให้มีการทำสัญญาซื้อขายหมาย จ.๑ แล้ว เห็น่าการซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้เป็นการซื้อขายตามเงื่อนไขเรียกประกวดราคาของโจทก์ ไม่ใช่บริษัทจำเลยพรรณาถึงเครื่องรับส่งวิทยุเพื่อเสนอขายให้โจทก์ยอมรับซื้อ นอกจากนี้ การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้ บริษัทจำเลยยังกำหนดให้โจทก์ตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้เหมือนตามรายการละเอียดและชนิดของ ๆ ที่จะซื้อนั้นก่อน โดยบริษัทจำเลยให้โจทก์ตรวจทดลองคุณสมบัติของเครื่องรับส่งวิทยุตามประกาศประกวดราคาของโจทก์ก่อนการส่งมอบว่า ตรงตามรายละเอียดและชนิดของเครื่องรับส่งวิทยุที่โจทก์ซื้อหรือไม่ รายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกที่แนบไว้ในสัญญาจึงเป็นเพียงรายละเอียดประกอบสัญญาซื้อขายเท่านั้น การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุดังกล่าวจึงเป็นการซื้อขายธรรมดา หาใช่เป็นการขายตามคำพรรณาไม่ เมื่อฟังว่าสัญญาซื้อหมาย จ.๑ ไม่ใช่เป็นการขายตามคำพรรณาและในเรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำเครื่องรับส่งวิทยุมาส่งมอบเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๒ นับถึงวันฟ้องคือวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๑๗ ยังไม่เกินสิบปีนับแต่วันส่งมอบ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share