คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 120 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม้นั้นเจ้าพนักงานจับได้ขณะบรรทุกอยู่เกวียนซึ่งเทียมด้วยกระบือนั้น ต้องฟังว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและกระบือเป็นพาหนะลากเข็นไม้แปรรูป ถือได้ว่าเกวียนและกระบือนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองแล้ว จึงเป็นองต้องริบตามกฎหมาย.

ย่อยาว

คดีทั้งสี่สำนวนนี้ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาและพิพากษามาพร้อมกัน โดยโจทก์ฟ้องมีใจความต้องกันว่า จำเลยต่างบังอาจมีไม้ตะเคียนแปรรูปแล้วอันเป็นไม้ต้องห้ามไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โดยไม้ดังกล่าวบรรทุกอยู่บนเกวียนเทียมด้วยกระบือ ซึ่งเป็นยานพาหนะ และสัตว์พาหนะซึ่งจำเลยใช้เป็นอุปกรณ์ในการบรรทุกและลากเข็นไม้แปรรูปนั้น ขอให้ลงโทษและริบไม้ เกวียนกระบือของกลาง
จำเลยทุกสำนวนให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๔๕,๗๓,๗๔,๗๔ ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๗,๑๘ ฯลฯ ให้ลงโทษปรับจำเลยคนละ ๑,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับคนละ ๕๐๐ บาท ริบเฉพาะไม้ของกลาง ส่วนเกวียนกับกระบือไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ของให้ริบของกลางทั้งหมด
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ริบเกวียนและกระบือของกลางทุกสำนวน
จำเลยทุกสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้องว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม่แปรรูปบรรทุกอยู่บนเกวียน ๔ เล่ม เทียมด้วยกระบือ ๘ ตัว ซึ่งต้องฟังว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและกระบือนั้นเป็นพาหนะลากเข็นไม้แปรรูป ถือได้ว่าเกวียนและกระบือของกลางได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง จึงเป็นของต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๘ ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย.

Share