คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยได้บุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายแล้วได้พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนางสาวล. ผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภรรยาจำเลยโดยขู่เข็ญ กอดปล้ำและชกต่อยประทุษร้ายผู้เสียหายบริเวณท้องหลายครั้ง ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำเลยลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว แต่ทำไปไม่ตลอดเนื่องจากผู้เสียหายดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน และมีเจ้าพนักงานกับพวกของผู้เสียหายเข้าขัดขวางและช่วยเหลือผู้เสียหายไว้ทันท่วงที จำเลยจึงข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายไม่สำเร็จ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,276, 364, 365
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 276 วรรคแรก, 364, 365(3)เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91 ความผิดตามมาตรา 80, 276 วรรคแรกจำคุก 3 ปี ความผิดตามมาตรา 364, 365(3) จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายแล้ว จำเลยได้พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา276 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80, 365 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 ปี

Share