แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ไม่เป็นเหตุที่จะนำมาพิจารณาว่าควรอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาคดีหรือไม่การพิจารณาว่าควรให้เลื่อนการพิจารณาหรือไม่นั้น ควรจะได้พิเคราะห์สั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบอกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่ใช่ความผิดของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,523,942 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ทำงานไม่เสร็จจำเลยจึงใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นได้ชี้สองสถานและกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 12ธันวาคม 2527 คู่ความทุกฝ่ายทราบนัดแล้ว ต่อมาวันที่ 11 ธันวาคม2527 ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานโจทก์ โดยอ้างว่าเสมียนทนายที่มาฟังคำสั่งศาลในวันนัดชี้สองสถานแจ้งว่าศาลได้เลื่อนการนัดชี้สองสถานเป็นวันที่ 12 ธันวาคม 2527และในวันที่ 12ธันวาคม 2527 โจทก์ได้ยื่นคำร้องว่า ตัวโจทก์ป่วย ขอเลื่อนการพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยื่นบัญชีระบุพยานโจทก์ เมื่อโจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานจึงสิ้นสิทธิที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบไม่มีเหตุขอเลื่อนการสืบพยาน ให้ยกคำร้อง ให้เลื่อนไปนัดสืบพยานจำเลยในนัดหน้า จำเลยแถลงไม่สืบถยาน คดีเสร็จการพิจารณา ให้รอฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ภาระการพิสูจน์ตกโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมานำสืบจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธณณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า คดีมีเหตุที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานคู่ความทั้งสองฝ่ายหรือไม่ เห็นว่าในวันที่ 12 ธันวาคม 2527 ซึ่งเป็นวันนัดพิจารณาคดีโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีอ้างว่าตัวโจทก์ป่วยไม่สามารถมาศาลได้ พร้อมแนบใบรับรองแพทย์มาด้วย ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าโจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานจึงสิ้นสิทธิที่โจทก์จะนำพยานเข้าสืบไม่มีเหตุขอเลื่อนการสืบพยานให้ยกคำร้อง โดยศาลชั้นต้นไม่ได้พิจารณาเหตุแห่งการขอเลื่อนการพิจารณาคดีของโจทก์ว่า ตัวโจทก์ป่วยจนไม่สามารถมาศาลได้หรือไม่ การที่โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้หาเป็นเหตุที่จะนำมาพิจารณาว่าควรอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาคดีหรือไม่ การพิจารณาว่าควรจะให้เลื่อนการพิจารณาคดีหรือไม่นั้น ควรจะได้พิเคราะห์สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงไม่ชอบ และที่ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เชื่อว่าโจทก์ป่วยจริงอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาคดีไป และพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย…”
พิพากษายืน