แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) มิใช่บทบัญญัติที่กำหนดหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีอย่างเดียวแต่ได้ให้อำนาจศาลในอันที่จะมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เมื่อเห็นสมควรไว้ด้วย การที่ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีหรือไม่นั้น ศาลจะต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยความเป็นธรรม
ตามคำร้องของจำเลยที่ 2 นั้นข้อเท็จจริงน่าจะมีมูลตามที่กล่าวอ้างเพราะมีเงื่อนงำและเลศนัยอยู่ว่าโจทก์และพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต หากบังคับคดีให้จำเลยออกโฉนดที่พิพาทให้แก่โจทก์ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและบุคคลภายนอกที่อาจจะรับโอนที่พิพาทต่อจากโจทก์โดยสุจริตได้ ดังนี้ กรณีมีเหตุสมควรงดการบังคับคดีในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินจำนวน49 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา ที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่งอกริมตลิ่ง เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ออกโฉนดที่งอกริมตลิ่งดังกล่าวให้แก่โจทก์ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ที่งอกริมตลิ่งตามแผนที่ท้ายฟ้อง (สีแดง) เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3ดำเนินการออกโฉนดที่ดินที่งอกให้แก่โจทก์ต่อไป กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ส่วนค่าทนายความให้ตกเป็นพับ คดีถึงที่สุดและศาลชั้นต้นได้ออกคำบังคับให้จำเลยที่ 2 ที่ 3ปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าวตามคำแถลงของโจทก์แล้ว
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวโดยอ้างเหตุผลสรุปได้ความว่า
1. จำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าพนักงานที่ดินที่สามารถออกโฉนดให้แก่โจทก์ได้
2. เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงพึงรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมต่อโจทก์
3. ที่พิพาทเป็นท้องทางน้ำตื้นเขินและเกาะกลางลำน้ำปิง เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือสั่งการให้ของดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอฟังผลการดำเนินคดีแก่โจทก์ในข้อหาบุกรุกที่ดินพิพาทอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และดำเนินคดีแก่นายสุรพงษ์ วัฒนพานิช พนักงานอัยการผู้แก้ต่างคดี และนายศุภโชคสุขสิน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต และฟ้องโจทก์ฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต
4. ได้ความจากการตรวจสอบและการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยกระทรวงมหาดไทยว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหากมีการออกโฉนดไปทางราชการก็มีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ออกโดยมิชอบนั้นเสียได้ ทั้งโจทก์อาจนำไปแบ่งขายอันจะทำให้เสียหายมากขึ้น
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่า โจทก์ได้มีหนังสือให้คำมั่นว่าถ้าจำเลยไม่อุทธรณ์คดีนั้น โจทก์จะไม่บังคับคดีให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยจึงได้สนองตอบโดยไม่อุทธรณ์ ซึ่งมีผลผูกพันโจทก์แล้ว ขอให้งดการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 3
โจทก์แถลงค้านและยืนยันให้บังคับแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 กับขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยทั้งสองมาสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เพื่อจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป
ศาลชั้นต้นนัดพร้อมและนัดฟังคำสั่ง ถึงวันเวลานัด ทนายโจทก์ทนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยที่ 3 มาศาล ทนายจำเลยแถลงว่าที่พิพาทเป็นทางน้ำตื้นเขินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่โจทก์ชนะคดีเนื่องจากการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ร้องทุกข์และกล่าวโทษให้ดำเนินคดีโจทก์ในความผิดฐานบุกรุกที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และดำเนินคดีแก่นายสุรพงษ์ วัฒนพานิชพนักงานอัยการผู้แก้ต่างคดี และนายศุภโชค สุขสิน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ (จำเลยที่ 3) ในฐานสนับสนุนให้โจทก์บุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดินและในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยร้องทุกข์และกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้วตั้งแต่วันที่10 ตุลาคม 2529 ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างสอบสวนของพนักงานสอบสวน
โจทก์แถลงว่า จำเลยสามารถปฏิบัติตามคำบังคับของศาลได้ และบัดนี้ครบกำหนดตามคำบังคับแล้ว จำเลยที่ 2 ที่ 3 มีหน้าที่ออกโฉนดและชำระค่าฤชาธรรมเนียมให้โจทก์ตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คดีมีเหตุอันควรให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอฟังผลการดำเนินคดีตามที่ทนายจำเลยแถลง อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 292 (2) จึงมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวเมื่อผลคดีเป็นประการใดแล้ว ให้โจทก์จำเลยแถลงเพื่อดำเนินการต่อไปคำร้องของโจทก์ที่ขอให้หมายเรียกจำเลยที่ 2 ที่ 3 มาสอบถามเพื่อออกหมายจับในชั้นนี้จึงให้งดไว้ก่อนเช่นเดียวกัน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้งดการบังคับคดีเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการออกโฉนดที่ดินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวตามเงื่อนไขที่ศาลชั้นต้นกำหนด ให้โจทก์บังคับคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ได้
โจทก์ฎีกาขอให้บังคับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ออกโฉนดให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ที่โจทก์ฎีกาว่ากรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 (2) นั้น คำสั่งดังกล่าวของศาลที่ให้งดการบังคับคดีไว้ แม้จะให้อำนาจแก่ศาลที่สามารถใช้ดุลพินิจงดการบังคับคดีไว้ ดุลพินิจของศาลดังกล่าวจะต้องประกอบด้วยเหตุผลอันสมควรกล่าวคือ ถ้าศาลมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไ้วชั่วคราวในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วสามารถทำให้เรื่องของการบังคับคดีเปลี่ยนแปลงได้ เช่นลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไว้แล้ว แต่ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งถ้าหากลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นฝ่ายชนะคดีแล้วจะไม่ต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ เพราะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ จึงขอให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 แต่ในคดีนี้จำเลยที่ 2ได้ยื่นคำร้องของดการบังคับไว้ โดยอ้างว่า จำเลยที่ 2 ได้ร้องทุกข์และกล่าวโทษโจทก์เป็นคดีอาญาในฐานความผิดบุกรุกที่พิพาทโดยอ้างว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ข้ออ้างดังกล่าวไม่เป็นเหตุที่สามารถเปลี่ยนแปลงการบังคับคดีและคำพิพากษาคดีนี้ได้ แม้จำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายชนะคดีดังกล่าวตามที่กล่าวอ้างจำเลยที่ 2 ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอยู่เช่นเดิม และข้ออ้างดังกล่าวก็เป็นข้ออ้างที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นที่งอก ไม่อาจนำมาวินิจฉัยได้อีก จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา292 (2) นั้น พิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา292 บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการบังคับคดีในกรณีต่างๆ หลายกรณีด้วยกัน และโดยเฉพาะใน (2) ได้บัญญัติไว้ว่า’ถ้าศาลได้มีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ ฯลฯ’ แสดงว่ามาตรา292 นี้มิใช่เป็นบทบัญญัติที่ได้กำหนดหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีอย่างเดียว แต่ได้บัญญัติให้อำนาจศาลในอันที่จะมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เมื่อเห็นสมควรไว้ด้วย ส่วนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 นั้นเป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลสั่งงดการบังคับคดีได้ในเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งลูกหนี้ตามคำพิพากษาอาจจะชนะคดีและนำคดีนั้นมาหักกลบลบหนี้กันกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังบังคับคดีกันอยู่ แต่มิใช่ว่าศาลจะมีอำนาจสั่งงดการบังคับได้เฉพาะกรณีตามมาตรา 293 เพียงกรณีเดียว หากมีกรณีอื่นที่กฎหมายบัญญัติให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีได้ดังเช่นที่มาตรา 292(2) บัญญัติไว้ ศาลก็ย่อมมีอำนาจสั่งงดการบังคับคดีได้ และในการที่ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีหรือไม่นั้น ศาลจะต้องคำนึ่งถึงผลได้ผลเสียของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยความเป็นธรรมโดยใช้วิจารณญาณประกอบด้วย สำหรับกรณีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ประกอบด้วยคำแถลงของทนายจำเลยโดยโจทก์ไม่ได้โต้แย้งเป็นประการอื่นว่า คณะกรรมการที่กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่โจทก์ขอให้ออกโฉนดที่พิพาทมีความเห็นว่าที่พิพาทเป็นท้องทางน้ำตื้นเขินและเกาะกลางลำน้ำปิง อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินย่อมไม่สามารถนำไปออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ใดได้ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ในฐานความผิดบุกรุกที่พิพาทโดยอ้างว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน และดำเนินคดีแก่นายสุรพงษ์ วัฒนพานิชพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ผู้แก้ต่างคดีให้จำเลยกับนายศุภโชค สุขสิน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะสนับสนุนให้โจทก์บุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดินตลอดจนความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แล้วตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม2529 เรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน เช่นนี้เห็นว่าตามคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวแล้วนั้นข้อเท็จจริงน่าจะมีมูลตามที่กล่าวอ้างเพราะมีเงื่อนงำและเลศนัยอยู่ว่าโจทก์และพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต หากบังคับคดีให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ดำเนินการออกโฉนดที่พิพาทให้แก่โจทก์ไปในชั้นนี้ อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและแก่บุคคลภายนอกที่อาจจะรับโอนที่พิพาทต่อจากโจทก์โดยสุจริตก็ได้ ดังนั้น เมื่อได้ใช้วิจารณญาณคำนึงผลได้ผลเสียโดยละเอียดรอบคอบแล้วกรณีมีเหตุสมควรงดการบังคับคดีในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวตามเงื่อนไขที่ศาลชั้นต้นกำหนด เพื่อรอผลคดีตามที่ทนายจำเลยได้แถลงไว้ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2529…’
พิพากษายืน.