คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9890/2552

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ในสายชั้นเรียนให้แก่ผู้เสียหาย จำเลยใช้ผู้เสียหายให้นำผ้าไปซักในห้องน้ำเกิดเหตุ เป็นที่เห็นได้ว่าขณะนั้นผู้เสียหายเป็นศิษย์อยู่ในความดูแลของจำเลย ทั้งต้องเชื่อฟังจำเลยด้วย เมื่อจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายในขณะนั้น จำเลยจึงต้องมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 279 วรรคแรก ประกอบมาตรา 285

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคแรก ประกอบมาตรา 285 จำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายอายุ 11 ปีเศษ เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลวัดดอกเงินซึ่งจำเลยเป็นครูสอนอยู่วันเกิดเหตุ ขณะผู้เสียหายกำลังซักผ้าอยู่ในห้องน้ำของโรงเรียน จำเลยเข้าไปห้องน้ำเดียวกัน แล้วผู้เสียหายวิ่งออกจากห้องน้ำในเวลาต่อมา ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกมีว่า จำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า ผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาลหลังจากที่ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเป็นระยะเวลาห่างกันถึงปีเศษ อาจเบิกความถึงรายละเอียดสับสนไปบ้าง แต่ผู้เสียหายก็ยังให้การต่อพนักงานสอบสวนและเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุอวัยวะเพศของจำเลยอยู่ในร่มผ้า จำเลยเองยังเบิกความรับว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยอยู่ในห้องน้ำกับผู้เสียหายสองต่อสอง เพียงแต่บ่ายเบี่ยงว่ายื่นสบู่ให้และใช้มือแตะศีรษะของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายตื่นกลัวไปเอง ข้อนำสืบต่อสู้ของจำเลยไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากเหตุสงสัยว่าจำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหาย
ที่จำเลยอุทธรณ์ต่อไปว่า จำเลยเป็นเพียงครูมีหน้าที่สอนผู้เสียหายมิได้มีหน้าที่ดูแลผู้เสียหาย ทั้งขณะเกิดเหตุเป็นเวลาพักกลางวัน และเหตุเกิดนอกห้องเรียน จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 นั้น เห็นว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยเป็นครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ในสายชั้นเรียนให้แก่ผู้เสียหาย จำเลยใช้ผู้เสียหายให้นำผ้าไปซักในห้องน้ำเกิดเหตุ เป็นที่เห็นได้ว่าขณะนั้นผู้เสียหายซึ่งเป็นศิษย์อยู่ในความดูแลของจำเลย ทั้งต้องเชื่อฟังจำเลยด้วย เมื่อจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายในขณะนั้น จำเลยจึงต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ประกอบมาตรา 285
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับ 10,000 บาท อีกสถานหนึ่งให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 3 ปี ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง เป็นเวลา 3 ปี และให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรมีกำหนด 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

Share