แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยปล่อยให้อาคารของตนเอนทับอาคารโจทก์เสียหายดังนี้เรียกว่าจำเลยทำละเมิด จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
ความเสียหายเกิดขึ้นนับแต่ทำละเมิดดังนั้นแม้ภายหลังปรากฏว่าอาคารของโจทก์ถูกไหม้ไม่มีอะไรจะให้จำเลยจัดการกับอาคารก็ดีความเสียหายซึ่งเกิดแต่ละเมิดยังคงอยู่ไม่ระงับหรือเปลี่ยนแปลงตามไปจำเลยต้องรับผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าอาคารของจำเลย เอนเข้าในที่โจทก์ปะทะอาคารของโจทก์เป็นเหตุให้อาคารของโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยรื้อถอนอาคารของจำเลยไปให้พ้นและให้ใช้ค่าเสียหายอีก 5,000 บาท
จำเลยรับว่าอาคารของจำเลยเอนไปปะทะอาคารของโจทก์แก้ว่าทั้งนี้เพราะอาคารจำเลยนั้นมีผู้เช่า ผู้เช่าขัดขวางไม่ยอมออกจำเลยไม่สามารถจะซ่อม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำเลยจัดการแก่อาคารของจำเลยไม่ให้รุกล้ำเข้าไปในที่ของโจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 5,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยแก้ว่าผู้เช่าไม่ยอมออกนั้นไม่ใช่เหตุผลจะให้จำเลยพ้นจากความผิดจำเลยมีหน้าที่ต้องทำอาคารให้มั่นคงตามสมควร จำเลยไม่ปฏิบัติเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายจำเลยต้องรับผิด และค่าเสียหายจำเลยแสดงไม่ได้ว่าต่ำกว่า 5,000 บาท
อนึ่งปรากฏว่าระหว่างคดีชั้นฎีกาอาคารของทั้งสองฝ่ายไฟไหม้สิ้น จำเลยยกเป็นข้อฎีกาว่าจำเลยหมดธุระไม่ต้องจัดการกับอาคารนั้น เห็นว่าจำนวนค่าเสียหาย 5,000 บาทเกิดขึ้นแล้วนับแต่ละเมิดแม้อาคารจะถูกไฟไหม้หนี้จำนวนนั้นก็ยังคงอยู่ไม่ระงับหรือเปลี่ยนแปลงไป
พิพากษายืนในข้อเสียหาย