คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พินัยกรรม์ที่พยานลงชื่อไม่ถูกต้องเสียคนหนึ่ง แต่ยังมีพยานอีกคนหนึ่งและผู้เขียนซึ่งเป็นพยานด้วยอีกคนหนึ่ง รวมเป็น 2 คน ดังนี้ ก็ถือได้ว่า พินัยกรรมนั้นมีพยานครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
พยาน 2 คนลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม์ ขณะที่ทำพินัยกรรม์นั้นไม่จำต้องลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมืออีกหนหนึ่ง ก็มีผลเท่ากับรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ทำพินัยกรรม์ไปในตัว

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นทายาทของนางทองผู้เป็นมารดาซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว โจทก์ขอแบ่งมรดก จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงฟ้อขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้มาก่อนนางทองวายชนน์ได้แบ่งทรัพย์แก่บุตร เป็นส่วนสัดว่าแล้ว ทรัพย์ที่เหลือรวมทั้งทรัพย์พิพาท มารดาได้ทำพินัยกรรม์ยกให้จำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าพินัยกรรม์สมบูรณ์ ให้ที่นาที่สวนตกได้แก่จำเลย นอกจากนี้คงยืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะตัดคำนายสังพยานจำเลยซึ่งลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม์ภายหลังออกเสียคนหนึ่ง พินัยกรรม์ฉะบับนี้ก็ยังมีพยานครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย ๒ คน คืน นายมุกพยาน กับนายสิงผู้เขียนและพยาน โดยพยาน ๒ คนนี้ได้ลงชื่อเป็นพยานขณะนางทองทำพินัยกรรม์ จึงไม่จำต้องลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมืออีกหนหนึ่ง มีผลเท่ากับรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนางทองไปในตัว ฯลฯ
จึงพิพากษายืน

Share