แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีคนฉุดคร่าและจะแทงบุตรสาวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันไป แต่ตรงที่เกิดเหตุบังเงามืด แม้จำเลยฟันพลาดไปถูกคนอื่น ซึ่งเข้าช่วยบุตรสาวจำเลยถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลย ก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นบิดานางสาวช้อย นางสาวช้อยถูกนายเจียรฉุดคร่า และจะแทง นายเพียรได้เข้าช่วยนางสาวช้อย แล้วนายผุดจำเลยได้ใช้มีดพร้าฟันไปถูกนายเพียรตาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249, 44
จำเลยให้การว่า ได้กระทำไปโดยเข้าใจผิดว่า ผู้ตายเป็นพวกที่ฉุดคร่านางสาวช้อย และเป็นคนแทงนางสาวช้อย
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยสำคัญผิด เป็นเรื่องขาดเจตนา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนาฆ่านายเพียร เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 50 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยเจตนาจะทำร้ายนายเจียรผู้ฉุดคร่า และจะแทงบุตรสาวจำเลยต่อหน้าจำเลย จำเลยเจตนากระทำแก่นายเจียร แต่ตรงนั้นบังเงามืดเห็นไม่ถนัด และนายเจียรกับนายเพียรกำลังอยู่ใกล้กัน จึงพลาดพลั้งไป จำเลยไม่ได้เจตนากระทำแก่นายเพียร การกระทำของจำเลยชอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 50 พิพากษายืน