คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในหนี้เงินกู้โจทก์ไว้ในฐานะที่จำเลยเป็นภริยาผู้รับมรดกของสามี หรือในฐานะที่สามีลงชื่อจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นในบริการอันหนึ่งแทนสามี เมื่อทางพิจารณาฟังว่าจำเลยไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จำเลยจึงไม่ใช่ผู้รับมรดกของผู้ตาย ฉะนั้นย่อมไม่มีความผูกพันอันใดจะต้องรับใช้หนี้ของผู้ตายตามฟ้อง แม้จำเลยจะรับทรัพย์สินของผู้ตายไว้ก็ตาม โดยนัยเดียวกัน แม้จำเลยจะมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนผู้ตาย ก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดในหนี้รายนี้ดุจกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า สามีจำเลยที่ ๑ กู้เงินโจทก์ไป ๑๐,๐๐๐ บาท บัดนี้นายเต็กก่อสามีจำเลยที่ ๑ ตายแล้ว จำเลยที่ ๑ เป็นภรรยา ผู้รับมรดก ต้องรับผิด และจำเลยที่ ๒ รับรองใช้หนี้รายนี้แทน จึงต้องรับผิดด้วย
จำเลยทั้ง ๒ ปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ รับผิดแต่ผู้เดียว
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อความในฟ้อง โจทก์ให้จำเลยที่ ๑ รับผิดในหนี้รายนี้ในฐานะที่จำเลยที่ ๑ เป็นภริยาผู้รับมรดกของนายเต็กก่อประการหนึ่ง หรือในฐานะที่นายเต็กก่อลงชื่อจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ถือหุ้นในบริการหลุมถ่านแทนนายเต็กก่อประการหนึ่ง สำหรับประการแรกนั้น เมื่อฟังว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเต็กก่อ จำเลยที่ ๑ ก็ไม่ใช่เป็นผู้รับมรดกของนายเต็กก่อตามกฎหมาย เมื่อไม่ใช่ภริยาและผู้รับมรดก ก็ถือว่าเท่ากับบุคคลภายนอกคนหนึ่ง ไม่มีความผูกพันอันใดจะต้องรับใช้หนี้ของนายเต็กก่อตามฟ้อง แม้จำเลยที่ ๑ จะรับทรัพย์สินของนายเต็กก่อไว้ก็ตาม โดยนัยเดียวกันนี้ แม้จำเลยที่ ๑ จะมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนนายเต็กก่อ ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดในหนี้รายนี้ดุจกัน ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน

Share