คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9794/2552

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่เกิดเหตุซึ่งมีรั้วลวดหนามล้อมทั้งสี่ด้าน ก่อนเกิดเหตุจำเลยขึงเส้นลวด 1 เส้น จากทิศเหนือไปยังทิศใต้สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร ขวางกึ่งกลางสวนแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ ผ่านเส้นลวดเพื่อป้องกันคนร้าย โดยมีเจตนาให้กระแสไฟฟ้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากเคยมีคนร้ายเข้าไปลักผลไม้และทรัพย์สินอื่น ต่อมาในวันเวลาเกิดเหตุผู้ตายอายุ 14 ปีเศษกับ ต. อายุ 15 ปี เข้าไปในสวนของจำเลยโดยพังรั้วเข้าไปเพื่อจะลักกระท้อนในสวนแล้วผู้ตายเดินไปถูกเส้นลวดที่จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั้นเมื่อไม่ปราฏว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายกับ ต. มีอาวุธใด ๆ ติดตัว ประกอบกับผลไม้ที่เข้าไปเพื่อจะลักน่าจะราคาไม่มากนัก ดังนี้ หากจำเลยพบเห็นผู้ตายกับพวกในขณะเกิดเหตุจำเลยย่อมสามารถใช้วิธีอื่นที่รุนแรงน้อยกว่าการทำร้ายร่างกายกระทำต่อผู้ตายเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้บรรลุได้ไม่ยาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2545 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยโดยมีเจตนาฆ่าใช้ลวดเหล็กสายเปลือยยาว 60 เมตร ขึงขวางไว้ระหว่างทิศเหนือกับทิศใต้สูงจากพื้นดินประมาณครึ่งเมตร ในสวนผลไม้ของจำเลยแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แล่นไปตามลวดเหล็กดังกล่าว เป็นเหตุให้เด็กชายวิโรจน์ ซึ่งเดินเข้าไปในสวนผลไม้ของจำเลยถูกกระแสไฟฟ้าที่จำเลยปล่อยไว้ที่เส้นลวดดูดจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 290
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
ระหว่างพิจารณา นางภาณีย์ มารดาของเด็กชายวิโรจน์ ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 (ที่ถูก มาตรา 290 วรรคแรก) ประกอบมาตรา 69 จำคุก 3 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ชั้นนี้โดยคู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งว่า จำเลยเป็นเจ้าของสวนผลไม้เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ณ ที่เกิดเหตุซึ่งมีรั้วลวดหนามล้อมทั้งสี่ด้าน ก่อนเกิดเหตุจำเลยขึงเส้นลวด 1 เส้น จากทิศเหนือไปยังทิศใต้สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร ขวางกึ่งกลางสวนแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ ผ่านเส้นลวดเพื่อป้องกันคนร้าย โดยมีเจตนาให้กระแสไฟฟ้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากเคยมีคนร้ายเข้าไปลักผลไม้และทรัพย์สินอื่น ต่อมาในวันเวลาเกิดเหตุผู้ตายอายุ 14 ปีเศษ กับนายไตรรงค์ อายุ 15 ปี เข้าไปในสวนของจำเลยโดยพังรั้วเข้าไปเพื่อจะลักกระท้อนในสวนแล้วผู้ตายเดินไปถูกเส้นลวดที่จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ปัญหาตามฎีกาของจำเลยข้อเดียวว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ เห็นว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายกับนายไตรรงค์อายุเพียง 14 ปีเศษ และ 15 ปี ไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใด ๆ ติดตัว ประกอบกับผลไม้ที่เข้าไปเพื่อจะลักน่าจะราคาไม่มากนัก ดังนี้ หากจำเลยพบเห็นผู้ตายกับพวกในขณะเกิดเหตุจำเลยย่อมสามารถใช้วิธีอื่นที่รุนแรงน้อยกว่าการทำร้ายร่างกายกระทำต่อผู้ตายเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้บรรลุผลได้ไม่ยาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษา ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share