คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 978/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อมีเหตุอันสมควรทำให้จำเลยสำคัญผิดว่า ผู้ตายเป็นคนร้ายเข้ามาทำร้ายจำเลย จำเลยย่อมกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนได้
จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายที่ขึ้นไปบนเรือนและเข้าไปทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเป็นการป้องกันไป 1 ทีถูกที่หน้าอกของผู้ตายเป็นบาดแผลลึกถึงหัวใจ ซึ่งพอจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้แล้ว จำเลยยังวิ่งไล่ตามไปแทงผู้ตายที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนอีกหลายครั้งจนผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ตรงนั้นการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16-17 มิถุนายน 2511 เวลากลางคืนจำเลยใช้มีดแทงทำร้ายนายทัด ทวนกระโทก โดยเจตนาฆ่า นายทัดถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยเหตุเกิดที่ตำบลทองหลางอำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และสั่งริบมีดของกลางที่ใช้กระทำผิด

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 62, 68, 69จำคุก 4 ปี ปรานีลดโทษตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี มีดของกลางริบ

โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นป้องกัน ขอให้ลงโทษตามฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์ มีดของกลางคืนจำเลย

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ตายขึ้นไปบนเรือนจำเลยในยามวิกาลถึงที่ที่จำเลยนอนอยู่ จำเลยร้องถามว่าใครถึง 3 ครั้งผู้ตายก็ไม่ตอบ ยังเข้ามาเหยียบเท้าจำเลย ในที่นั้นมืดจำเลยไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด เข้าใจว่าเป็นผู้ร้าย ประกอบกับในระหว่างนั้นได้มีคนร้ายมาปล้นบ้านใกล้เคียงบ่อย ๆ ชาวบ้านคอยระวังตัวอยู่ จำเลยจึงมีเหตุอันสมควรเข้าใจว่าเป็นคนร้ายเข้ามาทำร้ายจำเลยได้ การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงไป 1 ทีถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ที่จำเลยแทงไป 1 ที ครั้งแรกนี้ถูกที่หน้าอก ตามรายงานการชันสูตรพลิกศพปรากฏว่าบาดแผลลึกถึงหัวใจซึ่งน่าจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้อยู่แล้ว แต่จำเลยยังได้ให้ความสัตย์จริงต่อไปอีกว่าเมื่อจำเลยแทงไป 1 ทีแล้วผู้ตายก็วิ่งหนี จำเลยวิ่งตามไป ผู้ตายเสียหลักล้มลงที่พื้นดินหน้าบันไดเรือนจำเลย จำเลยแทงซ้ำอีกหลายครั้งถูกที่ราวนมซ้ายทะลุหัวใจอีกแผลหนึ่ง กับที่ซี่โครงซ้ายและที่หูซ้าย ผู้ตายถึงแก่ความตายอยู่ ณ ที่นั้นเอง การกระทำของจำเลยตอนที่วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีกเช่นนี้ เป็นการติดพันทันทีทันใดต่อเนื่องกับการแทงครั้งแรก ยังไม่ขาดตอน แต่จำเลยกระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ จึงเป็นความผิด ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์เสียทีเดียว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย และที่โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องฟังไม่ขึ้น แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีนี้ เนื่องจากจำเลยมีอายุ 58 ปีแล้วไม่ปรากฏว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ได้ให้ความสัตย์จริงต่อเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ต้นอย่างตรงไปตรงมา แสดงว่าไม่มีนิสัยเป็นผู้ร้าย ทั้งผู้ตายก็ประพฤติตนเยี่ยงอันธพาล การที่ถือมีดพร้าขึ้นไปบนบ้านจำเลยในยามดึกเช่นนั้น น่าจะมีเจตนาร้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรปรานีรอการลงโทษให้จำเลย

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ให้รอการลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 มีกำหนดเวลา 2 ปี มีดของกลางริบ

Share