คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับเช็คของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายมาโดยทราบว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาอันเป็นความผิดฐานรับของโจรตาม ป.อ.มาตรา 357 เมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเช็คของผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายอันเป็นความผิดตามมาตรา 188 อีกบทหนึ่งด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือมีคนร้ายลักเอาเช็คซึ่งนายทองลงลายมือชื่อสั่งจ่ายของนางกรรณิการ์ผู้เสียหายไปโดยทุจริต หลังเกิดเหตุลักทรัพย์แล้ว จำเลยได้ครอบครองเช็คของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปดังกล่าวและนำไปเรียกเก็บเงินโดยตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว จำเลยเป็นคนร้ายลักเอาเช็คของผู้เสียหายไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยรับไว้ซึ่งเช็คของผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายลักไปไว้จากคนร้าย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าทรัพย์ดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ และหลังจากจำเลยได้ครอบครองเช็คดังกล่าวแล้ว จำเลยเอาไปเสียและทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเช็คดังกล่าวอันเป็นของผู้อื่น โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นายทองและผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถใช้เช็คดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารและใช้เป็นหลักฐานในการขอรับชำระหนี้จากนายทอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(9), 188, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 (ที่ถูกมาตรา 357 วรรคแรก), 188ให้ลงโทษตามมาตรา 188 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 2 ปี ข้อหาลักทรัพย์ให้ยกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ลงโทษจำคุก 2 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่จำเลยนำเช็คไปเบิกเงินเป็นของจำเลยย่อมเป็นการกระทำให้เช็คนั้นไร้ประโยชน์ที่จะใช้ได้อีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ด้วยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมิได้กระทำโดยเจตนาที่จะให้เช็คนั้นไร้ประโยชน์ที่จะนำมาใช้ได้อีก การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดตามมาตรา 188 โจทก์ฎีกาว่าการที่จำเลยนำเช็คไปลงชื่อด้านหลังและยื่นขอเบิกเงินจากธนาคารแสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้เสียหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเช็คนั้น จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 ด้วย ศาลฎีกาว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 บัญญัติว่า”ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวางโทษ…”ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยรับเช็คของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายมาโดยทราบว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาอันเป็นความผิดฐานรับของโจร และในชั้นฎีกาคู่ความไม่ได้โต้เถียง ข้อเท็จจริงนี้จึงเป็นอันยุติ ฉะนั้นเมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเช็คของผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 อีกบทหนึ่งด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share