คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8 (9) นั้น เป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมของศาลจังหวัดนครสวรรค์ คดีหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๑๔ โดยจำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์ ๕๑๘,๖๗๕.๙๔ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย แต่จำเลยผิดนัดไม่ชำระ โจทก์ได้ขอให้ศาลบังคับคดียึดหุ้นของจำเลยที่มีอยู่ในบริษัทอุตสาหกรรมผลิตยางยูนิเวอร์แซล จำกัด มาขายทอดตลาดแล้วไม่สามารถขายได้ นอกจากนี้จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่พอจะยึดมาชำระหนี้ได้อีก พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว หนี้ของโจทก์กำหนดจำนวนได้แน่นอน มีจำนวนเกินกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมจริง แต่จำเลยยังไม่จำต้องเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะก่อนฟ้องคดีโจทก์ไม่ได้มีหนังสือบอกกล่าวหรือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองครั้ง เป็นระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ทั้งจำเลยยังมีทรัพย์สินมีราคาและมูลค่ามากพอที่จะขายนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วฟังว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวจริง ส่วนปัญหาที่จำเลยฎีกาว่าก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์มิได้บอกกล่าวหรือทวงถามเป็นหนังสือให้จำเลยชำระหนี้ไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๓๐ วันตามกฎหมาย ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่าตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๘ บัญญัติไว้ว่า “ถ้ามีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว………ฯลฯ ที่จำเลยอ้างถึงการบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๓๐ วันนั้น มีบัญญัติไว้ในมาตรา ๘ (๙) จึงต้องถือว่าเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับให้โจทก์ต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องไม่
พิพากษายืน

Share