คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9732/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง15ปีเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะต้องสอบถามจำเลยก่อนเริ่มพิจารณาว่ามีและต้องการทนายหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา173วรรคสองเมื่อตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นมิได้ปรากฏว่าได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้วการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงไม่ถูกต้องจริงศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองและย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 54, 55, 72 ตรี, 74 จัตวา ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ. 2497 มาตรา 9, 108 ทวิ และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 พ.ศ. 2515 ข้อ 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 และสั่งให้จำเลยทั้งสอง คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสองออกไปจากที่ดินที่เกิดเหตุดังกล่าวด้วย กับให้จ่ายเงินนำจับให้แก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลย ทั้ง สอง ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง, 72 ตรี วรรคสอง,74 จัตวา จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี ปรับจำเลยที่ 2เป็นเงิน 100,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ปรับจำเลยที่ 2เป็นเงิน 50,000 บาท พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีและความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ไม่มีเหตุรอการลงโทษ ให้จำเลยทั้งสองคนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทนและบริวารของจำเลยทั้งสองออกไปจากที่เกิดเหตุตามฟ้อง และให้จำเลยที่ 2 จ่ายเงินสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ หากจำเลยที่ 2ไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29
จำเลย ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 9,108 ทวิ วรรคหนึ่ง อีกบทหนึ่ง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 84 วรรคหนึ่ง, 72 ตรี วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับจากเงินค่าปรับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 15 ปี เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะต้องสอบถามจำเลยก่อนเริ่มพิจารณาว่ามีและต้องการทนายหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 วรรคสองดังนี้ เมื่อตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นมิได้ปรากฏว่าได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงไม่ถูกต้องจริง จำเป็นต้องดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลชั้นต้นย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ตามรูปคดีต่อไป

Share