คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยรับไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายจึงพิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 (อ้างฎีกาที่ 1344/2492)

ย่อยาว

คดีสู่ศาลฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวด้วยนายปั๊กจำเลยผู้เดียวฟ้องมีว่าคนร้ายลักไม้เคี่ยมกับไม้พันจำ ซึ่งเป็นของเจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองชุมพร ต่อมาปรากฏว่าไม้พันจำต้นหนึ่ง ซึ่งถูกลักพาไปนั้นอยู่ที่นายปั๊ก จำเลย ๆ รับไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษ

จำเลยปฏิเสธความผิด

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ไม้ที่จับได้จากนายปั๊กจำเลยเป็นไม้เคี่ยมไม่ใช่ไม้พันจำดังที่แจ้งในฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า การที่นายปั๊กจำเลยรับไม้ไว้นั้นนายปั๊กจำเลยไม่รู้ว่า ไม้เป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิด จึงพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง (แบบอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 1344/2492)โจทก์ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ให้ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share