คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9714/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นับจากวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา จำเลยได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ขอขยายระยะเวลาชำระค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ และขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น รวมเป็นเวลาถึง 1 ปีเศษ นับว่าจำเลยมีเวลาเตรียมเงินค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนานเพียงพอแล้ว ตามคำร้องของจำเลยก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยจะวางเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ภายในกำหนดเวลาที่ขอขยายไว้ กรณียังไม่อาจถือว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินตามคำร้องของจำเลย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๕,๔๖๗,๕๔๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๔,๕๑๒,๕๐๐ บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๐) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองคือที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๒๖๓ ออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๕,๐๐๐ บาท ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๑ ต่อมาวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๑ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตมีกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันครบกำหนดอุทธรณ์ วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๑ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองหากประสงค์จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ให้จำเลยทั้งสอง นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ๑๕ วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๒ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๒ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอขยาย ระยะเวลาชำระเงินค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตถึงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๒ ครั้นวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๒ จำเลยทั้งสองนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระและยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมและ ค่าทนายความที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งสองวาง ค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ภายในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๒ ต่อมาในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๒ จำเลยยื่นคำร้อง ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมดังกล่าวออกไปอีก ๑๕ วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลอนุญาตให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมวางศาลถึง ๒ ครั้ง มาแล้ว หากศาลอนุญาตให้จำเลยทั้งสองขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมอีก กรณีไม่แน่นอนว่าจำเลยทั้งสองจะนำค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายมาวางศาลได้เมื่อใด จึงไม่อนุญาต ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า นับจากวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา จำเลยทั้งสองได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ขอขยายระยะเวลาชำระค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ และขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น รวมเป็นเวลาถึง ๑ ปีเศษ นับว่าจำเลยทั้งสองมีเวลาเตรียมเงินค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนานเพียงพอแล้ว ตามคำร้องของจำเลยทั้งสองฉบับ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๒ และฉบับลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๒ ก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะวางเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ภายในกำหนดเวลาที่ขอขยายไว้ กรณียังไม่อาจถือว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินดังกล่าวตามคำร้องของจำเลยทั้งสอง ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ .

Share