คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดาผู้ร้องและผู้ร้องเข้าครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยเฉพาะผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แม้ผู้ขายที่พิพาทให้แก่บิดาผู้ร้องมิใช่เจ้าของที่พิพาทก็ตามแต่เมื่อผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมากว่า 10 ปี โดยมิได้ครอบครองแทนผู้อื่นผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อ พ.ศ. 2490 นายโชติบิดาผู้ร้องได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งจากนายจู เตือนเพ็ญ โดยในขณะที่ซื้อเข้าใจว่าเป็นที่ดินมือเปล่าแต่ต่อมาภายหลังปรากฏว่าเป็นที่ดินบางส่วนของที่ดินโฉนดที่ 3320 เมื่อซื้อแล้วบิดาผู้ร้องได้เข้าครอบครองทำประโยชน์และปลูกบ้านอยู่อาศัยโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของจนกระทั่งถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2504 ผู้ร้องได้รับมรดกที่ดินดังกล่าว และเข้าครอบครองทำประโยชน์โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า เมื่อ พ.ศ. 2490 มารดาผู้คัดค้านได้ให้บิดาผู้ร้องปลูกบ้านอยู่อาศัยและทำประโยชน์ในที่พิพาทและมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลที่ดินของมารดาผู้คัดค้านด้วย ในพ.ศ. 2504 บิดาผู้ร้องถึงแก่กรรมผู้ร้องได้ขออาศัยอยู่ในที่พิพาทและเป็นผู้ดูแลที่ดินให้แก่มารดาผู้คัดค้านต่อจากบิดาใน พ.ศ. 2510มารดาผู้คัดค้านได้ขายที่ดินทั้งแปลงให้แก่นางสาวเม้า สุวรรณพงษ์ผู้ร้องได้ขออาศัยและรับหน้าที่ดูแลที่ดินให้นางสาวเม้าต่อมาอีกครั้นต่อมาใน พ.ศ. 2519 นางสาวเม้าได้ยกที่ดินทั้งแปลงให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านได้ให้ผู้ร้องอยู่อาศัยในที่พิพาทต่อมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ที่ดินโฉนดที่ 3320 ตามคำร้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนางประไพ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ทั้งบิดาผู้ร้องและตัวผู้ร้องเข้าครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยเฉพาะผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว แม้ผู้ขายที่พิพาทให้แก่บิดาผู้ร้องมิใช่เจ้าของที่พิพาทก็ตาม แต่เมื่อผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมากว่า 10 ปี โดยมิได้ครอบครองแทนผู้อื่น ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share