แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามคนมีไม้เป็นอาวุธ แต่พอถึงบ้านเจ้าทรัพย์ได้ทิ้งไม้นั้นเสียเข้าทำการชิงทรัพย์ดังนี้ผิดเพียงฐานชิง
วิธีพิจารณาอาชญา ฎีกาอุทธรณ์ ศาลเดิมวาง ม. 297 – 59 จำคุก 16 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ว่าง ม.299 – 59 จำคุก 2 ปี คู่ความฎีกาได้แก้มาก
ย่อยาว
ได้ความว่า ต.ถือไม้หนึ่งอันเข้าไปในร้าน อ. แล้วทิ้งไม้นั้นเสีย ส่วน พ. เข้าไปซื้อบุหรี่ในร้าน อ. ก่อน พอ อ. รับสตางค์ไปเก็บหันหลังออกมา ต.เข้าบีบคอ อ.แล้วกระชากสร้อยคอนั้น ป.มายืนอยู๋หน้าร้าน อ. ก.สามี อ.ได้ไล่ตาม ต.ไป แต่ พ.กับ ป. เข้าขัดขวาง โดยพ. เงื้อไฟฟ้าเดินทางจะตี ก. จึงกลับ แล้ว พ. ป. ก็ ตามกลับมาด้วยดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยทั้งสามมีผิดฐานวิ่งราว ตาม ม. ๒๙๗ ให้จำคุกคนละ ๒ ปี แลลดโทษให้ ต.๑ ใน ๓ คงจำคุก ต. ๑๖ เดือน
ศาลอุทธรณ์แก้ว่า ต.มีผิดฐานชิงทรัพย์ตาม ม. ๒๙๙ – ๕๙ ให้จำคุก ๒ ปี ส่วน พ. ป. จำเลยไม่มีผิดให้ปล่อยไป
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้น
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยทั้งสามเป็นตัวการในการทำผิดด้วยกัน แลคดีนี้จะฟังว่าจำเลยมีอาวุธเข้าชิงทรัพย์ยังไม่ถนัด เพราะ ต. เข้าทิ้งไม้แล้วจึงเข้าแย่งสร้อยคอเจ้าทรัพย์ซึ่งแสดงว่า ต.ไม่ประสงค์จะใช้ไม้นั้นต่อไป ความผิดของจำเลยต้องด้วยฐานชิงทรัพย์ตาม ม. ๒๙๙