แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องข้อแรกว่า เมื่อ พ.นำใบถอนเงินมาขอถอนเงินแทนผู้ฝาก จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้ลงนามอนุมัติให้ถอนเงินหลายครั้งหลายหนในเอกสารใบถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อผู้ถอนเงินหรือผู้มอบฉันทะแล้วแต่กรณีในใบถอนเงินว่าเหมือนหรือคล้ายกับตัวอย่างลายมือชื่อผู้ฝากในบัตรคู่บัญชีหรือไม่ หากมีการตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เหมือนหรือไม่คล้ายกันก็ยังอนุมัติให้ถอนเงิน และอีกข้อบรรยายว่า จำเลยที่ 4 ถึงที่ 9 ละเลยการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่บรรยายไว้ในข้อแรกทุกประการหลายครั้งหลายหน โดยไม่ได้บรรยายว่าใบถอนเงินที่จำเลยทั้งเก้าอนุมัติให้ถอนเงินโดยไม่ตรวจสอบ และใบถอนเงินที่จำเลยทั้งเก้าตรวจสอบแล้วเห็นว่าลายมือชื่อไม่เหมือนก็ยังอนุมัติให้ถอนเงินนั้นเป็นเงินในบัญชีของผู้ฝากรายใด ถอนเงินไปจำนวนเท่าใด เมื่อวันเดือนปีใดจึงเป็นคำฟ้องที่ไม่แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งโจทก์ไม่ได้แนบบัญชีผู้ฝากเงินดังกล่าวมาท้ายฟ้อง เพื่อที่จะให้จำเลยเข้าใจและให้การต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ฟ้องโจทก์ย่อมขาดสาระสำคัญตาม ป.วิ.พ.มาตรา 172 เป็นฟ้องเคลือบคลุม และเมื่อโจทก์มีคำขอให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 รับผิดต่อโจทก์ร่วมกันหรือแทนกันกับจำเลยอื่นอันเป็นการชำระหนี้ซึ่งไม่อาจแบ่งแยกได้แล้ว แม้จำเลยที่ 3ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 ไม่ได้ยกปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมขึ้นให้การต่อสู้ไว้ ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องในประเด็นดังกล่าวไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 8 ได้