คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่พิพาทเพราะจำเลยได้มอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์และโจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมา อีกทั้งจำเลยมิได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์ภายในกำหนด1 ปี นั้น จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น ทั้งนี้แม้ว่าความข้อนี้โจทก์ยกขึ้นฎีกาดังกล่าว โจทก์จะได้บรรยายฟ้องไว้ก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้ฟ้องขอแสดงกรรมสิทธิในที่ดินพิพาทมาด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2521 นายมุกดา สายเนตรและจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร่วมในที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 5 ตำบลกุดชมภูอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เนื้อที่ 34 ไร่ 3 งาน 22ตารางวา ได้ร่วมกันขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้โจทก์ในราคา 33,500 บาทโจทก์ชำระเงิน 21,500 บาท ให้นายมุกดา และจำเลยในวันทำสัญญาตกลงกันว่า เมื่อจำเลยบรรลุนิติภาวะจะไปโอนที่ดินที่ซื้อขายกันให้โจทก์ แล้วโจทก์จะชำระราคาส่วนที่เหลืออีก 12,000 บาท นายมุกดาและจำเลยมอบ น.ส.3 ให้โจทก์ และส่งมอบที่ดินให้โจทก์ครอบครองและทำประโยชน์มาโดยสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า1 ปี แล้ว ครั้นต่อมาวันที่ 8 พฤศจิกายน 2521 นายมุกดาไปโอนที่ดินส่วนของตนให้โจทก์ โจทก์จึงชำระเงิน 12,000 บาท ให้นายมุกดาและจำเลย แต่เมื่อจำเลยบรรลุนิติภาวะ โจทก์ติดต่อให้จำเลยโอนที่ดินส่วนของจำเลยให้ตามสัญญา จำเลยก็ไม่ไปโอนให้โจทก์ ขอให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินตาม น.ส.3 เลขที่ 5 ดังกล่าวส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญาขายที่ดินและส่งมอบการครอบครองที่ดินของจำเลยให้โจทก์ ทั้งไม่เคยได้รับเงินจำนวน33,500 บาทไปจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า จำเลยได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์หรือไม่
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าขณะทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทจำเลยยังเป็นผู้เยาว์ และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมและได้รับอนุญาตจากศาล สัญญาซื้อขายจึงไม่ผูกพันจำเลยโจทก์เป็นเพียงเจ้าของรวม ไม่อาจแย่งการครอบครองจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรวมอีกคนหนึ่งได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าจำเลยได้มอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์และโจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาจำเลยมิได้ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนจากโจทก์ภายในกำหนด 1 ปี โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทเห็นว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท แม้ความข้อที่โจทก์ยกขึ้นฎีกาโจทก์จะได้บรรยายฟ้องไว้ แต่โจทก์มิได้ฟ้องขอแสดงสิทธิในที่ดินพิพาทมาด้วย ข้อที่โจทก์ยกขึ้นฎีกาจึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยมา ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นฎีกาเป็นพับ

Share