คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9610/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 บัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ (1) – (5)
คดีนี้ผู้ร้องอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้คัดค้านขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ มิใช่เป็นการอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัตินี้ แต่เป็นเพียงการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องการตรวจรับอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. ภาค 3 ลักษณะ 1 ว่าด้วยการอุทธรณ์ ที่ผู้อุทธรณ์ต้องอุทธรณ์ไปตามลำดับชั้นศาล
และจะถือเป็นการอนุโลมว่าผู้ร้องประสงค์จะอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ ก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะผู้ร้องมิได้ทำเป็นคำร้องมาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์เพื่อขออนุญาตอุทธรณ์ข้อกฎหมายต่อศาลฎีกา ตามหลักเกณฑ์ของบทบัญญัติมาตรา 223 ทวิ ที่ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องมายังศาลฎีกา จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการแห่งหอการค้านานาชาติ โดยให้ผู้คัดค้านชำระเงินแก่ผู้ร้อง ผู้คัดค้านยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาและศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีเป็นการร้องขอให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์เป็นเงิน 100,000 บาท ให้ผู้คัดค้านเสียค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วน ภายใน 7 วัน นับแต่ทราบคำสั่ง แต่ผู้คัดค้านมิได้นำเงินค่าขึ้นศาลมาเสียให้ครบถ้วนตามคำสั่ง ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องลงวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ขอศาลขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลในส่วนที่ศาลสั่งให้วางเพิ่ม โดยผู้คัดค้านได้นำเงินค่าขึ้นศาลมาวางเพิ่มต่อศาลแล้ว
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านลงวันที่ 12 ตุลาคม 2555 ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งวันที่ 22 มิถุนายน 2555 ที่ไม่รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน และอนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลให้ผู้คัดค้านมีกำหนด 7 วัน ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยก่อนเป็นข้อแรกว่า ผู้ร้องมีอำนาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้คัดค้านขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลต่อศาลฎีกาหรือไม่ โดยผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งว่า ผู้คัดค้านจงใจเพิกเฉยไม่ติดตามอุทธรณ์ของตน มิใช่เป็นเหตุสุดวิสัย นั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 55 บัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ (1) การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (2) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (3) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นไม่ตรงกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (4) ผู้พิพากษา หรือตุลาการซึ่งพิจารณาคดีนั้นได้ทำความเห็นแย้งไว้ในคำพิพากษาหรือ (5) เป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยการใช้วิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่พิพาทตามมาตรา 16 และในวรรคสอง บัญญัติให้การอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ซึ่งตามอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นกรณีที่ผู้ร้องอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ มิใช่เป็นการอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 แต่เป็นเพียงการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องการตรวจรับอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 3 ลักษณะ 1 ว่าด้วยการอุทธรณ์ ที่ผู้อุทธรณ์ต้องอุทธรณ์ไปตามลำดับชั้นของศาล ผู้ร้องจึงไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นดังกล่าวต่อศาลฎีกาได้ และจะถือเป็นการอนุโลมว่าผู้ร้องประสงค์จะอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ ก็ไม่ได้เช่นกัน ทั้งนี้เพราะบทบัญญัติของมาตรา 223 ทวิ ได้บัญญัติหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาว่า ผู้อุทธรณ์ต้องทำเป็นคำร้องมาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และสำเนาคำร้องแก่จำเลยแล้ว ทั้งไม่มีคู่ความอื่นยื่นอุทธรณ์ และจำเลยอุทธรณ์มิได้คัดค้าน แต่เมื่อได้ความว่า คดีนี้ผู้ร้องมิได้ทำเป็นคำร้องมาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์เพื่อขออนุญาตอุทธรณ์ข้อกฎหมายต่อศาลฎีกามาด้วย ย่อมเป็นการไม่ชอบตามมาตรา 223 ทวิ ไม่มีผลให้อุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ การที่ศาลชั้นต้นส่งอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องมายังศาลฎีกา จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่อาจรับวินิจฉัยได้ และเมื่อวินิจฉัยเช่นนี้แล้ว กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้ออื่นของผู้ร้องอีกต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลของคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา และให้ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share