คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ต.ซึ่งปรากฏในคำฟ้องว่าตายมาประมาณ5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกมาแต่ผู้เดียวโจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกนางแตนจากจำเลย จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ครอบครองทรัพย์ร่วมกับจำเลย คดีขาดอายุความ นายโล้นสามีจำเลยที่ 1 ขอเข้าเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยที่ 1 ศาลอนุญาต ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ 1 ใน 3 ส่วนศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกนางแตนซึ่งปรากฏในคำฟ้องว่าตายมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่โจทก์อ้างว่า โจทก์ จำเลยครอบครองร่วมกันมา จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์หาได้เข้าเกี่ยวข้องกับมรดกนี้ไม่จำเลยครอบครองฝ่ายเดียวตลอดมา ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความตัวโจทก์เบิกความว่า เมื่อนางแตนตายแล้ว บรรดาบุตรประชุมกันให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ปกครองทรัพย์มรดกเหล่านี้ จำเลยที่ 1 ได้ครอบครองตลอดมาโจทก์อยู่ที่อื่นมีการไปช่วยทำนาบ้าง โดยช่วยจำเลยที่ 1 เพราะจำเลยที่ 1 มีคนน้อย เช่นนี้จะเรียกว่า โจทก์ได้ครอบครองมรดกร่วมกับจำเลยดังโจทก์อ้างในคำฟ้องไม่ได้ โจทก์มิได้อ้างในคำฟ้องว่าจำเลยที่ 2 ครอบครองแทนดังที่โจทก์เบิกความ จึงต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น คดีของโจทก์ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share