แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ม. และ ส.ซึ่งมีชื่อในโฉนดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้ร้อง ได้ขายที่ดินส่วนของตนและส่งมอบการครอบครองที่ดินให้ผู้ร้อง แม้การซื้อขายมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตกเป็นโมฆะก็ตาม แต่การครอบครองของ ม. และ ส.ก็สิ้นสุดลงโดยถือว่าบุคคลทั้งสองได้แสดงเจตนาสละการครอบครองให้แก่ผู้ร้องผู้ร้องครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อมาเกินกว่าสิบปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนของ ม.และ ส. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2502นายแวว สุริยาวงศ์ ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 5249ตำบลเปรง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่27 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา ให้แก่นางพุก จินดาพงษ์ นายสนิทสุริยาวงศ์ นายเหมือน สุริยาวงศ์ นายมาก สุริยาวงศ์ กับผู้ร้องต่อมาเมื่อปี 2506 นางพุก นายสนิท นายเหมือน กับนายมากซึ่งถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้ร้องได้ตกลงยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่ผู้ร้องเพื่อเป็นการชำระหนี้เงินกู้ นับแต่นั้นมาผู้ร้องได้เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมาโดยสงบ เปิดเผย เจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปี ผู้ร้องจึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2531 นางพุกกับนายมากได้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้ผู้ร้องทางทะเบียน ส่วนนายสนิทกับนายเหมือนได้เสียชีวิตไปก่อน จึงไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทางทะเบียนให้ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 5249 ตำบลเปรง อำเภอเมืองฉะเชิงเทราจังหวัดฉะเชิงเทรา เฉพาะส่วนของนายสนิทกับนายเหมือนเนื้อที่ดินรวม 10 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง
ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 9 ยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านว่าผู้คัดค้านทั้งเก้าเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายเหมือนสุริยาวงษ์ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินโฉนดเลขที่ 5249นายเหมือนไม่เคยยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่ผู้ร้อง ทั้งผู้ร้องไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว แต่นายเหมือนกับผู้คัดค้านทั้งเก้าเป็นผู้ครอบครองที่ดินเฉพาะส่วนของตนจนถึงปัจจุบัน ขอให้ยกคำร้องขอ
ผู้คัดค้านที่ 10 ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ 10 เป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายสนิทโดยเป็นภริยาของนายสนิทคำร้องขอของผู้ร้องเคลือบคลุม เนื่องจากตามคำร้องขอไม่ระบุว่าที่ดินที่ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองปรปักษ์อยู่ส่วนใดของที่ดินผู้ร้องไม่เคยครอบครองที่ดินดังกล่าวตั้งแต่ได้รับการยกให้ แต่มีนายเหมือนผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมเป็นผู้ครอบครองแทนจนกระทั่งนายเหมือนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2531 นายสนิทไม่เคยกู้ยืมเงินผู้ร้องและไม่เคยยกที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้ผู้ร้องเพื่อตีใช้หนี้ตามที่ผู้ร้องอ้าง ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 5249 ตำบลเปรงอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เฉพาะส่วนของนายสนิทสุริยาวงศ์ กับนายเหมือน สุริยาวงศ์ เนื้อที่ดินรวม 10 ไร่ 3 งาน84 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382
ผู้คัดค้านทั้งสิบฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า พยานหลักฐานผู้ร้องที่นำสืบมามีน้ำหนักและเหตุผล ทำให้เชื่อได้ว่านายเหมือนกับนายสนิทซึ่งมีชื่อในโฉนดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกับผู้ร้องได้ขายที่ดินส่วนของตนและส่งมอบการครอบครองที่ดินให้ผู้ร้องแม้การซื้อขายมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตกเป็นโมฆะก็ตาม แต่การครอบครองของนายเหมือนกับนายสนิทก็สิ้นสุดลงโดยถือว่าบุคคลทั้งสองได้แสดงเจตนาสละการครอบครองให้แก่ผู้ร้องตั้งแต่ปี 2506 การที่นายเหมือนเช่าที่ดินดังกล่าวจากผู้ร้องแสดงให้เห็นถึงการยอมรับการครอบครองที่ดินของผู้ร้องตั้งแต่นั้นมา แม้นายเหมือนจะคงอยู่บนที่ดินต่อมาอีก แต่นายเหมือนก็ไม่ได้แสดงเจตนาจะยึดถือการครอบครองเพื่อตน จึงมิได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ แต่เป็นกรณีที่นายเหมือนครอบครองที่ดินแทนผู้ร้องการที่ผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินในส่วนของนายเหมือนกับนายสนิทตั้งแต่ปี 2506 โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันตลอดมาเกินกว่าสิบปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนของนายเหมือนกับนายสนิทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382
พิพากษายืน