คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9599/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์บรรยายให้เห็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยจำเลยนำเอาของเพลงของผู้เสียหายซึ่งมีผู้ทำซ้ำโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายไปทำซ้ำโดยบันทึกลงในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บรรจุโปรแกรมคาราโอเกะที่เป็นตัวหนังสือของเนื้อเพลงและทำนองเพลงปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเปิดให้บริการในลักษณะของเพลงคาราโอเกะแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นการบรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในการกระทำของจำเลยที่นำงานอันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อหากำไรและเพื่อการค้า แต่การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บรรจุโปรแกรมคาราโอเกะที่เป็นตัวหนังสือของเนื้อเพลงและทำนองเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายและของผู้อื่นหลายรายให้ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดให้บริการแก่ลูกค้า อันเป็นความประสงค์ที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพียงอย่างเดียวเพื่อหากำไรและเพื่อการค้า การที่มีลูกค้ามาเปิดใช้บริการเพลงคาราโอเกะของผู้เสียหายหรือของผู้อื่นทีละเพลงในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงถือว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน
เมื่อการกระทำคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1549/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าประเทศกลางเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน และคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้ลงโทษจำเลยไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงระงับไป พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 39 (4)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 28, 31, 69, 70, 76 และสั่งจ่ายค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งแก่ผู้เสียหายกับนับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1547/2557 และ อ.1549/2557 ดังกล่าวด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1547/2557 หมายเลขแดงที่ อ.1549/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งกระทำความผิดในวัน เวลา และสถานที่เดียวกัน แม้ผู้เสียหายจะต่างรายกัน แต่เมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏรายละเอียดชัดเจนว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดต่างหากจากกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว ซึ่งศาลได้พิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแก่จำเลยไปแล้วในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1547/2557 หมายเลขแดงที่ อ.1549/2557 ดังกล่าว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงระงับไป ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า การกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้เป็นการกระทำกรรมเดียวกันกับการกระทำความผิดของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1549/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า แม้การละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายตามฟ้องจะเป็นการกระทำในวันและสถานที่เดียวกัน แต่ก็เป็นการกระทำต่างวาระกัน เพราะจำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายแต่ละคนทีละเพลง ไม่ได้กระทำพร้อมกันนั้น เห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ได้บรรยายให้เห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของจำเลยโดยจำเลยนำเอาเพลงดังกล่าวของผู้เสียหายซึ่งมีผู้ทำซ้ำโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายไปทำซ้ำโดยบันทึกลงในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ซีพียู) ที่บรรจุโปรแกรมคาราโอเกะที่เป็นตัวหนังสือของเนื้อเพลงและทำนองเพลงดังกล่าวปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเปิดให้บริการในลักษณะของเพลงคาราโอเกะแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นการบรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในการกระทำของจำเลยที่นำงานอันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อหากำไรและเพื่อการค้า แต่การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บรรจุโปรแกรมคาราโอเกะที่เป็นตัวหนังสือของเนื้อเพลงและทำนองเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายและของผู้อื่นหลายรายให้ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดให้บริการแก่ลูกค้า อันเป็นความประสงค์ที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพียงอย่างเดียวเพื่อหากำไรและเพื่อการค้า การที่มีลูกค้ามาเปิดใช้บริการเพลงคาราโอเกะของผู้เสียหายหรือของผู้อื่นทีละเพลงในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงถือว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน เมื่อการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของจำเลยคดีนี้โดยการนำงานอันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนอันเป็นการกระทำคราวเดียวกันกับการที่จำเลยนำงานอันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อหากำไรและเพื่อการค้าในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1549/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ถือเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน และคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้ลงโทษจำเลยไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงระงับไป ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องมานั้น ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share