แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องโดยระบุถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคนที่ได้นำโคของตนปล่อยเข้าไปกัดกินต้นยางในสวนยางของโจทก์เป็นไปในลักษณะจำเลยแต่ละคนต่างคนต่างทำละเมิดต่อโจทก์ซึ่งการกระทำอันละเมิดต่อโจทก์ของจำเลยแต่ละคนนั้นจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายในส่วนของแต่ละคนมากน้อยเป็นจำนวนเท่าใด โจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏชัด ข้ออ้างแห่งการกระทำละเมิดของจำเลยแต่ละคนตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่ใช่หนี้ร่วมที่โจทก์จะฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ตามคำขอท้ายฟ้อง จึงเป็นการขัดแย้งกันในตัว ยากที่จำเลยแต่ละคนจะต่อสู้คดีของตนได้ถูกต้องจึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2521 เวลากลางวัน จำเลยได้กระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์จำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ กล่าวคือจำเลยที่ 1 ได้นำโคจำเลยที่ 1 จำนวน 3 ตัว จำเลยที่ 2จำนวน 2 ตัว รวม 5 ตัว เข้าไปปล่อยในสวนยางของโจทก์ซึ่งเพิ่งปลูกยางพันธุ์มาประมาณ 13 เดือน กำลังเจริญงอกงาม เป็นเหตุให้โคทั้งห้าตัวของจำเลยทั้งสองกัดกินต้นยางตายไปทั้งสิ้น 55 ต้น ราคาต้นละ 500 บาท รวมราคา27,500 บาท ทั้งนี้เป็นผลการประมาทของจำเลยทั้งสองโดยตรง และจำเลยทั้งสองมีเจตนาที่จะทำลายทรัพย์ของโจทก์ โจทก์ทวงถามให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายจำเลยทั้งสองไม่ยอมชำระให้ ขอให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 27,500 บาท แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของผู้ครอบครองสวนยางและโคของจำเลยทั้งสองไม่ได้เข้าไปกัดกินต้นยางดังโจทก์ฟ้อง ราคาต้นยางไม่เกินต้นละ 20 บาท ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่บรรยายให้แจ้งชัดว่าโคของจำเลยแต่ละคนทำให้โจทก์ต้องเสียหายเพียงใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์ ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องโดยระบุถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคนที่ได้นำโคของตนปล่อยเข้าไปกัดกินต้นยางในสวนยางของโจทก์เป็นไปในลักษณะจำเลยแต่ละคนต่างคนต่างทำละเมิดต่อโจทก์ ซึ่งการกระทำอันละเมิดต่อโจทก์ของจำเลยแต่ละคนนั้นจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายในส่วนของแต่ละคนมากน้อยเป็นจำนวนเท่าใดโจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏชัดข้ออ้างแห่งการกระทำอันละเมิดของจำเลยแต่ละคนตามคำบรรยายฟ้องโจทก์ไม่ใช่หนี้ร่วมที่โจทก์จะฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ตามคำขอท้ายฟ้องจึงเป็นการขัดแย้งกันในตัว ยากที่จำเลยแต่ละคนจะต่อสู้คดีของตนได้ถูกต้อง การบรรยายฟ้องของโจทก์ในกรณีเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับเอากับจำเลยแต่ละคนให้รับผิดในส่วนของแต่ละคน เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
พิพากษายืน