แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองมีข้อความว่าฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริง คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้อง จำเลยทั้งสองมิได้กู้เงินจำนวน 9,040,000 บาท จากโจทก์ และมิได้เป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องนั้นเป็นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ที่มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น เพื่อแสดงว่าตนเองจะชนะคดีได้อย่างไรเมื่อศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ จึงไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคสอง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบ 246 และ 247
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ตามหนังสือสัญญากู้เงินและหนังสือสัญญาจำนองพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ว่า จำเลยทั้งสองมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้อง ฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริง จำเลยทั้งสองมิได้กู้เงินจากโจทก์ และมิได้เป็นหนี้โจทก์ตามฟ้อง
โจทก์คัดค้านว่า โจทก์ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองทราบโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา คำร้องขอให้พิจารณาใหม่มิได้แสดงหลักฐานให้เห็นชัดเจนว่า หากมีการพิจารณาใหม่แล้วจะชนะคดีโจทก์ได้อย่างไรไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๐๘ วรรคสอง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นสมควรวินิจฉัยก่อนว่า คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๐๘ วรรคสอง หรือไม่ ปัญหานี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ มิได้ยกขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและในศาลอุทธรณ์ แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๒ (๕) ประกอบมาตรา ๒๔๖ และมาตรา ๒๔๗ ตามคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองมีข้อความว่าฟ้องโจทก์ไม่เป็นความจริง คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้อง จำเลยทั้งสองมิได้กู้เงินจากโจทก์ และมิได้เป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องเห็นว่า คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น เพื่อแสดงว่าตนเองจะชนะคดีได้อย่างไรเมื่อศาลอนุญาตให้พิจารณาใหม่ คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๐๘ วรรคสอง ปัญหาตามฎีกาของจำเลยทั้งสองไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำต้องวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน.