แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การริบสิ่งของซึ่งหลีกเลี่ยงศุลกากรนั้น ถึงแม้ผู้กระทำจะมิใช่เจ้าของก็ดี ก็เป็นของพึงริบทั้งสิ้น กรณีเช่นนี้จะนำ ม. 27 แห่งกฎหมายอาญามาบังคับมิได้ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.158,161 โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้ส่งสินค้าเข้ามากระทำผิดฐานหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากรถึงทางพิจารณาปรากฎว่าบิดาจำเลยเป็นผู้ส่งก็ไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องเคลือบคลุมทำให้จำเลยเสียเปรียบ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยบังอาจลอบเปิดหีบสินค้าซึ่งยังมิได้เสียภาษีตามกฎหมายแล้วย้ายสินค้าในหีบนั้นไปซุกซ่อนใส่ไว้ในหีบสินค้าซึ่งเสียภาษีแล้วโดยเจตนาจะหลีกเลี่ยงค่าภาษีของรัฐบาลให้ปรับจำเลยและริบสินค้าทั้ง ๒ หีบเสีย
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ส่งสินค้ามาจากปีนังแต่ความจริงบิดาจำเลยเป็นผู้ส่งนั้นไม่เป็นข้อสาระสำคัญในคดี ไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องเคลือบคลุมกระทำให้จำเลยเสียเปรียบประการใด ส่วนข้อที่จำเลยคัดค้านว่าไม่ควรริบสินค้ารายนี้เพราะจำเลยไม่ใช่เจ้าของตามกฎหมายอาญา ม.๒๗ นั้นเห็นว่าคดีนี้ไม่เข้า ม.๒๗ นั้น เพราะ พ.ร.บ.ศุลกากรเป็นกฎหมายพิเศษทั้งมีบทบัญญัติโดยชัดเจนให้ริบสินค้าเหล่านี้ พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยเสีย