แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินที่จะจ่ายฝากอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทยในบัญชีของ ก.ศ.ว. แต่จะจ่ายได้ตามคำเรียกร้องของ โอ.ไอ.ซี.ซี และในการที่ ก.ศ.ว. ต้องออกเช็คในนามของผู้รับเหมาก่อสร้าง แล้วมอบให้ โอ.ไอ.ซี.ซี โอ.ไอ.ซี.ซี. จึงจะจ่ายให้ผู้รับโดยตรงจึงเป็นเรื่องที่ทั้ง ก.ศ.ว. และ โอ.ไอ.ซี.ซี. มีส่วนร่วมกันในการจ่ายเงินแก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ฉะนั้น การที่ โอ.ไอ.ซี.ซี. แจ้งให้ ก.ศ.ว. ส่งเงิน 181,135 บาท ให้ศาลแพ่งตามหนังสือของศาลแพ่ง ก.ศ.ว. จึงส่งเช็คจำนวนเงินดังกล่าวไป แม้จะเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่จำเลย แต่ ก.ศ.ว. ก็มิได้มอบเช็คนั้นให้แก่จำเลย แต่ได้มอบให้แก่ โอ.ไอ.ซี.ซี. โอ.ไอ.ซี.ซี. นำไปมอบให้ศาลแพ่ง จึงเป็นการที่ ก.ศ.ว. และ โอ.ไอ.ซี.ซี. จัดการนำเงินดังกล่าวแล้วส่งศาลแพ่งตามคำสั่งของศาลแพ่งนั้นเอง ก.ศ.ว. จึงไม่ต้องรับผิดในเงินจำนวนดังกล่าวให้อีก เพราะได้ทำไปตามคำสั่งศาล
ย่อยาว
เรื่องนี้ เดิมโจทย์ฟ้องจำเลยเรียกเงินรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท โดยโจทก์ได้ยื่นคำร้องพร้อมกับฟ้องขอให้ศาลสั่งอายัดเงินที่จำเลยจะได้รับจาก ก.ศ.ว. และ โอ.ไอ.ซี.ซี. ประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ บาท ก่อนคำพิพากษาศาลแพ่งได้ไต่สวนและมีหมายอายัดไปยังประธานกรรมการสำนักงาน ก.ศ.ว. ต่อมาศาลแพ่งได้พิพากษาให้บริษัทนานากิน จำกัด จำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้องและได้ออกหมายบังคับคดี วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๔๐๕ ศาลแพ่งได้แจ้งไปยังประธานกรรมการสำนักงาน ก.ศ.ว. ให้ส่งเงินจำนวน ๑๓๐,๐๐๐ บาทที่อายัดมาให้กองหมายกระทรวงยุติธรรมตามที่โจทก์ร้องขอ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติได้มีหนังสือชี้แจงมายังศาลแพ่งว่า สำนักงานเป็นแต่เพียงมีหน้าที่ตามข้อตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือทางทหารระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่จะจ่ายเงินของรัฐบาลสหรัฐที่ฝากไว้กับสำนักงาน ก.ศ.ว. โดยผู้อำนวยการ โอ.ไอ.ซี.ซี.ชองฝ่ายสหรัฐเป็นผู้สั่งจ่ายตามงบประมาณโครงการที่รับรองแล้ว และโดยที่บริษัทนานากิจได้มีสัญญาก่อสร้างทางทหารกับ โอ.ไอ.ซี.ซี. อยู่หลายราย เมื่อ โอ.ไอ.ซี.ซี. นำหนังสือของศาลแพ่งที่ ๒๑๖๒/๒๕๐๔ ลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๐๔ มายัง ก.ศ.ว.เพื่อให้ ก.ศ.ว.จ่ายเงิน ก็เข้าใจว่าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ทั้งหมดของบริษัทนานากิจ จำกัด ได้ตกลงให้จ่ายเงินแก่ศาลแพ่งตามหนังสือนั้นแล้ว สำนักงาน ก.ศ.ว.จึงได้จ่ายเงิน ๑๘๑,๑๓๕ บาท ๕๐ สตางค์ ให้แก่ศาลแพ่ง ดังนั้น เงินของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาตามที่ โอ.ไอ.ซี.ซี.ทำสัญญาไว้กับบริษัทนานากิจ จำกัด จึงไม่มีเหลืออยู่เลย
ศาลแพ่งเห็นว่า ก.ศ.ว. ไม่ใช่คู่สัญญาในการก่อสร้างกับจำเลยหน่วย โอ.ไอ.ซี.ซี. ต่างหากเป็นคู่สัญญา การที่โจทก์อายัดชั่วคราวก่อนคำพิพากษานั้น ไม่ต้องห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นที่จะอายัดซ้ำ การอายัดครั้งหลังของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงใช้ได้ และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงมีสิทธิขอเฉลี่ยเงินที่อายัดนี้โดยโจทก์ไม่มีสิทธิ เพราะขณะนั้นโจทก์ยังหาเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่จึงให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า เงินที่จะจ่ายนี้ฝากอยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทยในบัญชีของ ก.ศ.ว. แต่จะจ่ายได้ตามคำเรียกร้องของ โอ.ไอ.ซี.ซี. และในการจ่ายนี้ ก.ศ.ว.ต้องออกเช็คในนามของผู้รับเหมาก่อสร้าง แล้วต้องมอบให้ โอ.ไอ.ซี.ซี โอ.ไอ.ซี.ซี.จึงไปจ่ายให้แก่ผู้รับโดยตรง จึงเป็นเรื่องที่ทั้ง ก.ศ.ว. และ โอ.ไอ.ซี.ซี.มีส่วนร่วมกันในการจ่ายเงินแก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง ฉะนั้น การที่ โอ.ไอ.ซี.ซี.แจ้งให้ ก.ศ.ว. ส่งเงิน ๑๘๑,๑๓๕.๕๐ บาท ให้ศาลแพ่งตามหนังสือของศาลแพ่ง ก.ศ.ว.จึงส่งเช็คจำนวนดังกล่าวแล้วไป แม้จะเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัทนานากิจ จำกัด จำเลยก็ดี แต่ ก.ศ.ว.ก็มิได้มอบเช็คนั้นให้แก่บริษัทนานากิจ จำกัด แต่ได้มอบให้แก่ โอ.ไอ.ซี.ซี.นำไปมอบต่อศาลแพ่งซึ่งเหล่านี้เป็นเพียงวิธีการตามระเบียบปฏิบัติในข้อตกลงว่าด้วยการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและวิชาการเท่านั้น ในการที่จะนำจำนวนเงินดังกล่าวแล้วส่งศาลให้เป็นการถูกต้องกับระเบียบปฏิบัติในข้อตกลงนั้นในเวลาเดียวกันด้วย จึงเป็นการที่ ก.ศ.ว. และ โอ.ไอ.ซี.ซี. จัดการนำเงินดังกล่าวแล้วส่งศาลแพ่งตามคำสั่งของศาลแพ่งนั้นเอง ก.ศ.ว. จึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ในคดีนี้อีก เพราะได้ทำไปตามคำสั่งศาล
พิพากษายืน.