คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนองสาธารณะจะเป็นสมบัติของแผ่นดินหรือไม่กฎหมายมิได้บังคับว่าต้องขึ้นทะเบี้ยนไว้ การที่จะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามสภาพทของที่ดินนั้นเอง ว่าเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
ที่พิพาทเป็นหนองที่ราษฎรใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์จับปลาใช้น้ำร่วมกัน จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ผู้ใดจะถือสิทธิในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินหาได้ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ครอบครองทำกินในที่พิพาท และได้ขึ้นทะเบี้ยนรับใบสำคัญรับรองการทำประโยชน์ไว้แล้ว จำเลยได้มีคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์เสีย และนำหลักไปปักกำหนดเขตทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อน ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ และสั่งว่าคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองทำประโยชน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าที่พิพาทส่วนหนึ่งเป็นหนองสาธารณะเจ้าหน้าที่ออกหนังสือรับรองทำประโยชน์ให้โจทก์ไปโดยผิดหลง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิในหนองสาธารณะ จึงได้เพิกถอนหนังสือรับรองทำประโยชน์นั้นเสียและแจ้งให้โจทก์ออกจากหนองสาธารณะนั้น โจทก์ก็ไม่ออก ขอให้ขับไล่
โจทก์แก้ฟ้องแย้งว่า ที่พิพาทเป็นที่นาของโจทก์ ไม่ใช่ที่สาธารณะประโยชน์
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาคดีรวมกับคดีที่นายยม ศรีกุดตุ้ม ฟ้องจำเลยทำนองเดียวกันแล้วยกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน ให้โจทก์และบริวารออกจากที่พิพาทและห้ามเกี่ยวข้องขัดขวางผู้อื่นที่จะใช้ประโยชน์เกี่ยวกับหนองพิพาท
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ในคดีนี้ผู้เดียวฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์จับจองหนองพิพาทจนทางการได้ขึ้นทะเบียบรับรองการทำประโยชน์ให้นั้น เนื่อจากหนองนี้ทางอำเภอมิได้ขึ้นทะเบี้ยนไว้ว่าเป็นหนองสาธารณะประโยชน์แต่หนองสาธารณะจะเป็นสมบัติของแผ่นดินหรือไม่กฎหมายมิได้บังคับว่าต้องขึ้นทะเบียนไว้ การที่จะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามสภาพของที่ดินนั้นเองว่าเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ เมื่อหนองพิพาทเป็นที่ซึ่งราษฎรใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ จับปลา ใช้น้ำร่วมกัน จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ผู้ใดจะถือสิทธิในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินหาได้ไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share