คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวเปลือกไปต่างท้องที่มีกำหนด 25 วันนับแต่วันอนุญาตนั้นต้องเริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2498 เวลากลางวันจำเลยได้ขนย้ายข้าวเปลือก 62 กระสอบ มีข้าวเปลือกหนัก 3.500 กิโลกรัม ออกนอกเขตจังหวัดขอนแก่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเป็นการฝ่าฝืนประกาศฉบับที่ 65 พ.ศ. 2498 ของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าวเหตุเกิดตำบลดอนหัน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และตำบลศรีฐาน อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 3, 4, 10, 13 พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6 ประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าวฉบับ ที่ 65 พ.ศ. 2498 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9

จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วได้ความว่า บริษัทสุราขอนแก่น จำกัดโดยนายสมจิตร บูรณโภคา เป็นผู้ขอแทน ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ทำการขนย้ายข้าวเปลือกเหนียว น้ำหนัก 3,500 กิโลกรัม จากฉางข้าวตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นไปยังบริษัทสุราสามัครี ตำบลกุดบ่วง อำเภอเมือง จังหวัดเลยโดยพาหนะรถยนต์ หนังสืออนุญาตนี้มีกำหนดอายุ 25 วัน นับแต่วันอนุญาต วันอนุญาต คือวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2498 ต่อมานายสมจิตรบูรณโภคา ได้มอบฉันทะให้จำเลยเป็นผู้ขนย้ายข้าวแทน จำเลยได้ทำการขนย้ายข้าวจำนวนนี้โดยรถยนต์จากจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่22 พฤษภาคม 2498 ไปถึงด่านตรวจผานกเค้า อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลยในวันเดียวกัน เวลา 14.00 น. เศษ ตำรวจประจำด่านขอตรวจดูใบอนุญาตจากจำเลย ๆ ก็เอาให้ดู ตำรวจว่าใบอนุญาตนั้นพ้นกำหนดแล้วจึงทำการจับกุมจำเลยและข้าวเปลือกที่บรรทุกไปส่งสถานีตำรวจอำเภอวังสะพุง

ได้ความดังนี้ ศาลชั้นต้นเห็นว่า การนับเวลาซึ่งกำหนดเป็นวันนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ว่า มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลาเข้าด้วย ฉะนั้น เมื่อนับแต่วันที่ 28 เมษายน 2498 ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2498 ก็เป็นวันครบ 25 วันพอดีหาล่วงเลยกำหนดวันอนุญาตไม่ แม้จะเริ่มนับแต่วันที่ระบุในใบอนุญาตเมื่อใบอนุญาตกำหนดนับเป็นวัน ๆ หนึ่งก็ต้องนับ 24 ชั่วโมงส่วนของวันไม่ครบเต็ม 24 ชั่วโมง ไม่นับว่าเป็นรอบของวันหนึ่งใบอนุญาตของเจ้าพนักงานออกให้วันที่ 27เมษายน 2498 เวลาไม่ปรากฏแต่เป็นที่เข้าใจว่า น่าจะอยู่ระหว่าง 9.00 น. ถึง 16.00 น.อันเป็นเวลาปฏิบัติราชการทั่ว ๆไป เมื่อเวลาออกใบอนุญาตไม่ปรากฏอาจเป็นว่าใบอนุญาตได้ออกเมื่อ 16.00 น. ของวันที่ 27 เมษายน 2498 ก็ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้วันหนึ่งของวันที่ 27 เมษายน 2498 จึงรวมถึงวันที่ 28 เมษายน 2498 เวลา 16.00 น. จึงจะครบ 24 ชั่วโมงนับได้ว่าเป็นวันหนึ่ง ปรากฏว่าจับจำเลยเวลา 14.00 น.เศษ วันที่ 22 พฤษภาคม 2498 ยังไม่ทัน 16.00 น. เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าใบอนุญาตออกเวลาใด จึงยังฟังไม่ได้แน่นอนว่าอยู่ในกำหนด 25 วันหรือล่วงเลยไปแล้ว จำเลยจึงไม่ควรมีผิด พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลย ข้าวของกลางคืนเจ้าทรัพย์

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา เถียงว่า การนับ 25 วัน ต้องนับแต่วันที่ 27 เมษายน 2498 เพราะใบอนุญาตบ่งว่า ให้นับแต่วันอนุญาต ซึ่งข้อความดังกล่าวมานี้เป็นเหมือนหนึ่งกฎข้อบังคับ ที่ทำกันระหว่างพนักงานผู้ออกใบอนุญาตกับนายสมจิตร ผู้รับอนุญาต

ศาลฎีกาได้ประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว ปัญหาในชั้นนี้คงมีแต่ว่าการนับระยะเวลาตามใบอนุญาตนี้จะเริ่มนับแต่วันใด ศาลฎีกาเห็นว่าการนับระยะเวลานั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 บัญญัติไว้ว่า ถ้าระยะเวลาเป็นวันก็ดี สัปดาห์ก็ดี เดือน หรือปีก็ดีท่านมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วย เว้นแต่จะเริ่มการในวันนั้นเอง ตั้งแต่เวลาอันเป็นกำหนดเริ่มทำการงานกันตามประเพณีและมาตรา 156 บัญญัติไว้อีกว่า วิธีการกำหนดนับระยะเวลาทั้งปวงท่านให้บังคับด้วยบทบัญญัติทั้งหลายแห่งลักษณะนี้ เว้นแต่จะมีกำหนดไว้เป็นประการอื่น โดยกฎหมายหรือกฎข้อบังคับ โดยคำสั่งศาลหรือโดยนิติกรรม เพราะฉะนั้น การนับระยะเวลาในคดีนี้จึงต้องเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2498 เป็นต้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ที่ใบอนุญาตกำหนดว่าให้มีอายุ 25 วัน นับแต่วันอนุญาตนั้น ไม่ใช่เป็นกฎหมายหรือกฎข้อบังคับที่กำหนดให้นับเป็นประการอื่น จึงจะนับหนึ่งแต่วันที่ 27 เมษายน 2498 ดังโจทก์ฎีกาไม่ได้เมื่อเริ่มนับหนึ่งแต่วันที่ 28 เมษายน 2498 แล้วถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2498 ก็ครบ 25 วันพอดีหาล่วงพ้นอายุใบอนุญาตไม่ ดังนั้นจำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามโจทก์ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ถูกต้องแล้ว

จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย

Share