คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุโจทก์ว่าเกิดที่แห่งหนึ่ง จำเลยว่าเกิดที่อีกแห่งหนึ่ง จำเลยจึงขอร้องให้ศาลไปเผชิญสืบศาลชั้นต้นสั่งว่าข้อเท็จจริงในสำนวนของทั้งสองฝ่ายเป็นการที่ศาลเข้าใจดีแล้วไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจดูที่เกิดเหตุฉนั้นในข้อที่ศาลจะไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุหรือไม่นี้จึงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงไม่ใช้ข้อ ก.ม. เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม. 218

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายนางเว้นตี้ มีบาดเจ็บ จำเลยเคยต้องโทษมาแล้วมากระทำผิดอีกภายใน ๕ ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ
นางเว้นตี้ผู้เสียหายขอเป็นโจทก์ร่วม
จำเลยรับในข้อต้องโทษ นอกนั้นปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ม. ๒๕๔ จำคุก ๑ เดือน ๑๕ วัน เพิ่มโทษตาม ม. ๗๒ เป็นลงโทษจำคุก ๒ เดือน และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อ ๓ ที่อ้างว่าเป็นข้อ กฎหมาย นอกนั้นเป็นข้อเท็จจริงไม่รับ
ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสาระสำคัญของคดีหากจำเลยสืบสมข้อต่อสู้ย่อมพ้นความผิด แต่ศาลสั่งงดเสียจึงเป็นข้อ ก.ม.นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าในการสืบฝ่ายโจทก์ว่าเหตุเกิดแห่งหนึ่ง แต่จำเลยว่าเหตุเกิดอีกแห่งหนึ่ง จำเลยจึงร้องขอให้ศาลไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุ ศาลชั้นต้นสั่งว่าข้อเท็จจริงในสำนวนของทั้งสองฝ่ายเป็นการที่ศาลเข้าใจดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจดูที่เกิดเหตุ ฉนั้นในข้อที่ศาลจะไปเผชิญสืบสถานที่เกิดเหตุหรือไม่นี้จึงเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้อกฎหมาย ฎีกาจำเลยต้องห้าม
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย

Share