แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์ที่ 2 ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีแทนดังที่กล่าวในฟ้อง ฟ้องของโจทก์ที่ 2 จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณามาแต่แรก แม้ต่อมาโจทก์ที่ 2 จะได้ยื่นใบมอบอำนาจที่แท้จริงต่อศาล ก็หาทำให้ฟ้องที่เสียใช้ไม่ได้มาแต่ต้นกลับคืนดีขึ้นมาในภายหลังไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกของนายเกอะผู้ตายให้แก่โจทก์ทั้งสองผู้เป็นทายาทครึ่งหนึ่งหากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและหากการแบ่งทรัพย์ไม่เป็นที่ตกลง ให้นำออกขายทอดตลาดนำเงินแบ่งตามส่วน
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ที่ ๒ ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ ๑ ฟ้องคดี โจทก์ทั้งสองไม่เป็นทายาทของนายเกอะผู้ตายและจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยความสงบ เปิดเผย โดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า ๒๐ ปี จึงได้กรรมสิทธิ์แล้ว
นายม้น เสียงเปรม ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยให้เรียกเป็นจำเลยที่ ๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ แบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ทั้งสองครึ่งหนึ่ง หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้นำออกขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งตามส่วน
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้สืบสันดานของนายเกอะผู้ตายและมีสิทธิรับมรดกส่วนที่นายฮงบิดาของโจทก์ทั้งสองได้รับจากนายเกอะผู้ตาย สำหรับจำเลยนั้นพฤติการณ์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยความสงบเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า ๑๐ ปี จำเลยจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ ๒ ว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ที่ ๒ ได้ลงชื่อในใบมอบอำนาจให้โจทก์ที่ ๑ ฟ้องคดีแทน ฟ้องของโจทก์ที่ ๒ ก็ไม่เป็นฟ้องอันชอบด้วยวิธีพิจารณามาแต่เมื่อแรกฟ้อง ถึงแม้ต่อมาภายหลังโจทก์ที่ ๒ จะได้ทำใบมอบอำนาจที่แท้จริงยื่นเข้ามา ก็หาทำให้ฟ้องของโจทก์ที่ ๒ เสียใช้ไม่ได้มาแต่ต้นแล้วนั้นกลับคืนดีเป็นฟ้องอันชอบด้วยวิธีพิจารณาขึ้นมาในภายหลังได้ไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในส่วนของโจทก์ที่ ๒ ให้จำเลยที่ ๑ แบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์ที่ ๑ หนึ่งในสี่ส่วน นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.