แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจกักขังบุคคลที่เรียกมาเปนพะยานได้
ย่อยาว
มีผู้ร้ายปล้นบ้าน ค.จำเลยที่ ๑ เปนปลัดอำเภอ จำเลยที่ ๒ เปนหัวหน้าโรงพักได้ออกไปไต่สวน จำเลยจับ ม.โจทก์กับนายยอด นายเหียม นายช้อยมาในฐานสงสัยว่าเปนผู้ร้ายปล้นทรัพย์ แต่ภายหลังได้กันเอา ม.ไว้เปนพะยานส่วน ส.โจทก์นั้นจำเลยเรียกมาเปนพะยานในระหว่างไต่สวนเรื่องปล้นนั้น จำเลยได้กักขังทรมานโจทก์ทั้ง ๒ ไว้ที่บ้านนายล่อง ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้ออกไปไหน เพราะโจทก์ไม่ยอมให้การปรักปรำนายยอดกับพวก ดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่า จำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๗๐,๑๑๘ ประกอบด้วย ๖๘,๗๑ ให้จำคุกคนละ ๑ ปี
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับให้ยกฟ้องโจทก์ โดยไม่เชื่อคำพะยาน
ศาลฎีกาตัดสินว่า คดีฉะเพาะตัว ม.โจทก์นั้น จำเลยมีอำนาจกักขังได้ เพราะมีเหตุให้สงสัยว่า ม.เปนพรรคพวกผู้ร้ายด้วย แต่ส่วน ส.โจทก์นั้นได้ถูกเรียกมาในฐานะเปนพะยาน จำเลยไม่มีอำนาจจะหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ได้ จำเลยต้องมีผิดตามมาตรา ๒๗๐ ให้จำคุกคนละ ๑ เดือน ปรับคนละ ๑๐๐ บาท แต่โทษจำคุกให้ยกเสียตามมาตรา ๔๐