แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เปนปัญหาข้อกฎหมาย ลักษณพะยาน แม้จำเลยจะมีอำนาจซักค้านพะยานของจำเลยด้วยกันก็ดี แต่ศาลไม่อนุญาต แลการตัดสินคดีไม่ได้ฟังคำพะยานของจำเลยคนหนึ่งมาลงโทษอีกคนหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีเหตุจะให้ศาลกลับรื้อพิจารณาใหม่
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยทั้ง ๒ ขับรถยนต์โดยความประมาทเปนให้เกิดโดนกันทำให้ อ.ก.ช.มีบาดเจ็บสาหัส  ให้ลงโทษตาม ม.๒๕๙ จำคุกคนละ ๑ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า  ช.จำเลยขับรถถูกทางไม่มีความประมาท  ข.ผู้เดียวเปนผู้ขับรถยนต์โดยประมาท  ให้ลงโทษ ข.ตามศาลเดิม  ส่วน ช.ให้ปล่อยไป
ข.จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า  ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม  แลศาลล่างไม่อนุญาตให้ ข.ซักค้านพะยานของ ช.
ศาลฎีกาเห็นว่า  เรื่องฟ้องเคลือบคลุมนั้นจำเลยมิได้ให้การแก้คดีโจทก์  แลโจทก์ฟ้องกล่าวความชัดแล้วว่าจำเลยขับรถสวนทางกันมาด้วยความประมาท  จนเปนเหตุให้รถของจำเลยทั้ง ๒ เกิดโดนกันขึ้น  ทำให้ อ.ก.ช.ซึ่งโดยสานมาในรถของ ช.จำเลยบาดเจ็บสาหัสดังนี้  หาเปนฟ้องเคลือบคลุมไม่  ส่วนข้อที่ศาลไม่ให้จำเลยค้านพะยานของ ช.นั้น  เห็นว่าในการพิจารณาศาลควรอนุญาตให้จำเลยซักค้านพะยานฝ่ายจำเลยด้วยกันได้  แต่ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา  หาได้ฟังคำพะยานฝ่าย ช.ขึ้นลงโทษ ข.จำเลยไม่  จึงไม่มีเหตุจะสั่งย้อนให้ ข.ซักค้านพะยานของ  ช.แต่ประการใดแลแม้ศาลจะไม่ฟังคำพะยานฝ่าย ช.เปนความจริง ข.จำเลยก็ไม่พ้นผิด  จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์

