คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซื้ออ้อยโจทก์ไปทำเป็นน้ำตาลเพื่อจำหน่าย น้ำตาลนั้นจะเป็นน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทรายก็ตาม ก็ถือได้ว่าการซื้อขายเป็นการทำเพื่อการอุตสาหกรรมของฝ่ายลูกหนี้คือจำเลย เพราะฉะนั้นสิทธิเรียกร้องราคาอ้อยมีอายุความ 5 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกราคาอ้อยซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์ไปหลายครั้งเพื่อเอาไปผลิตเป็นน้ำตาลจำหน่ายในทางการค้า

จำเลยยอมรับข้อเท็จจริงที่ระบุในคำฟ้องทุกประการแต่ต่อสู้ว่าคดีขาดอายุความ

ต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน

ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อความในคำฟ้องฟังได้ว่าโจทก์เป็นพ่อค้าและจำเลยซื้ออ้อยไปเพื่อการอุตสาหกรรมของฝ่ายจำเลย จึงทำให้คดีมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้โจทก์ชนะตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยซื้ออ้อยจากโจทก์ไปผลิตเป็นน้ำตาลจำหน่าย แม้จะไม่ได้ความชัด (จากคำฟ้อง) ว่าจำเลยผลิตเป็นน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทรายดังจำเลยยกขึ้นฎีกาก็ตามก็เป็นกรณีเอาอ้อยไปเปลี่ยนสภาพให้เป็นสินค้าจำหน่ายอยู่นั่นเองถือได้ว่าการซื้อขายอ้อยนี้เป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของฝ่ายลูกหนี้คือจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) สิทธิเรียกร้องของโจทก์มีอายุความ 5 ปี คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share