คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายคราวต่อเนื่องกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2530 จนถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2530 ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2530 เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276และนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 47/2531 ของศาลชั้นต้นจำเลยให้การปฏิเสธแต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก ให้จำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี คำขออื่นให้ยก จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า คดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2530จนกระทั่งผู้เสียหายมีครรภ์ ผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในกำหนดสามเดือน คดีขาดอายุความนั้น เห็นว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2530 ตลอดมา จนกระทั่งนางสาวคำเฮียงถูกคนร้ายข่มขืนกระทำชำเราและฆ่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม2530 เป็นการกระทำผิดหลายคราวต่อเนื่องกันตลอดมา ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2530เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ”
พิพากษายืน

Share