แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแล้วถึงแม้ผู้ยึดยังไม่ได้รับเงินไป คนอื่นก็ไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยได้ในกรณีเช่นนี้ถึงหากผู้ยึดไม่ยอมให้เฉลี่ยโดยอ้างเหตุอื่น ศาลก็ยกเหตุดังกล่าวแล้วไม่ยอมให้เฉลี่ยได้
ย่อยาว
คดีนี้จำเลยไม่ใช้เงินตามคำพิพากษาท้ายยอม โจทก์จึงนำยึดทรัพย์จำเลยรวม ๙ อย่างเมื่อขาดทอดตลาดได้เป็นตัวเงินแล้วแต่โจทก์ก็ยังไม่ได้รับเงินไป ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาอีกสำนวนหนึ่งร้องขอเฉลี่ยเงินที่ขายทรัพย์เลขที่ ๓-๔-๖-๘ โจทก์ไม่ยอมให้เฉลี่ย นอกนั้นยอมให้เฉลี่ย
ศาลเดิมสั่งให้ผู้ร้องได้รับเฉลี่ยทรัพย์ทั้งหมด
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านฉะเพาะทรัพย์หมายเลขที่ ๓-๔-๖-๘
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องเพิ่งมาร้องขอเฉลี่ยเมื่อขายทรัพย์ได้เป็นตัวเงินแล้วย่อมไม่มีสิทธิจะขอเฉลี่ยได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกาว่า (๑) โจทก์มิได้ยกกำหนดการใช้สิทธิของผู้ร้องเป็นข้อต่อสู้ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างบังคับคดีมิชอบ (๒) ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องขอเฉลี่ยของผู้ร้องทั้งหมดไม่ต้องด้วยวิธีพิจารณา ควรยกฉะเพาะที่โจทก์คัดค้าน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในประการที่ ๑ เมื่อได้ตรวจดูคำร้องคัดค้านประกอบกับข้ออุทธรณ์ของโจทก์เห็นได้ว่าโจทก์ต่อสู้คัดค้านข้อนี้ด้วย หากแต่ว่าโจทก์กล่าวความข้อนี้น้อยไป ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์อ้างเหตุนี้จึงหาผิดต่อวิธีพิจารณาไม่ แลในประการที่ ๒ เห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะเข้าใจว่าศาลอุทธรณ์มุ่งหมายนอกเหนือออกไปจากทรัพย์หมายเลข ๓-๔ -๖-๘ ที่คู่ความทุ่งเถียง แลโจทก์อุทธรณ์มานั้นเลย จึงให้ยกฎีกาผู้ร้อง