คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีเฉพาะจำเลยที่ 1,3 ยุติแล้วโดยศาลล่างทั้งสองฟังว่าจำเลยที่ 1 แทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว จำเลยที่ 3 ไม่ได้กระทำผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์ จำเลยที่ 2 ฎีกา เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1,2 ต่างแทงผู้ตายแต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยคนใดแทงตรงไหนอย่างใด ทั้งฟังได้ว่าต่างคนต่างทำเป็นการเฉพาะตัวมิได้สมคบกันมา บาดแผลของผู้ตายมี 3 แผล ๆ ที่ 1 ฉกรรจ์อาจทำให้ถึงตาย อีก 2 แผลเป็นแต่เพียงทำให้หนังถลอกเท่านั้น ดังนี้จึงควรยกประโยชน์ให้แก่จำเลยที่ 2 คงลงโทษฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.254 ไม่ใช่ฐานทำให้ถึงตายโดยไม่เจตนาตาม ม.251

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑,๒,๓ สมคบกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะเข้าทำการจับกุมจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม.ไว้ในความครอบครองและจำเลยทั้งสามสมคบกันทำร้ายเจ้าพนักงานดังกล่าวคือแทงทำร้ายพลตำรวจเผียนถึงตายโดยเจตนา ทำร้ายร่างกายพลตำรวจสมพงษ์ถึงบาดเจ็บขอให้ลงโทษตาม ม.๒๔๙,๒๕๐,๑๑๙,๑๒๐,๖๓,๗๑,๒๕๔ และริบของกลาง
จำเลยทั้งสามปฏิเสธพลทหารว่อนจำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าป้องกันตัวโดยใช้มีดแทงป้องกันไปทีหนึ่ง
จำเลยที่ ๒,๓ ต่อสู้อ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๑ ให้วางโทษจำคุก ๑๐ ปี ส่วนพลทหารว่อนและนายจองจำเลยไม่ได้กระทำผิดให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลย ๒ คน นี้ของกลางให้ริบทั้งหมด
นายพัน จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑,๓ เป็นอันยุติและเชื่อว่าจำเลยที่ ๒ ได้แทงพลตำรวจเผียนจริง แต่คำพยานโจทก์ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ ๒ แทงถูกตรงไหน พยานโจทก์อีกคนหนึ่งว่าขณะพลตำรวจเผียนจะเข้าช่วยพลตำรวจสมพงษ์ จำเลยที่ ๑ ได้แทงพลตำรวจเผียน แต่ไม่ทราบว่าถูกตรงไหน เช่นเดียวกัน จึงเป็นอันเชื่อได้ว่าจำเลยที่ ๑,๒ ต่างได้เข้าแทงพลตำรวจเผียน แต่ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทั้งสองได้สมคบกันมาทำร้ายในทำนองนี้เป็นการต่างคนต่างทำเป็นการเฉพาะตัว พลตำรวจเผียนมีบาดแผล ๓ แห่ง แผลที่ ๑ ที่ตรงหู ซ้ายลึก ๙ ซม.กว้าง ๓ ซม.เป็นแผลที่ทำให้ถึงตาย แผลที่ ๒ ตรงขมับซ้าย แผลที่ ๓ ตรงข้อมือซ้าย เป็นแผลพอหนังถลอกทั้งสองแผล เมื่อฟังว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้สมคบกันและฟังไม่ได้ว่าจำเลยคนใดเป็นผู้แทงพลตำรวจเผียนที่หูอันเป็นแผลที่ทำให้ถึงตาย จึงควรยกประโยชน์ให้แก่นายพันจำเลยที่ ๒ ว่าไม่มีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม.๒๕๑ เป็นผิดแต่เพียงฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.๒๕๔
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุธรณ์ว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๔ ให้จำคุก ๒ ปี นอกจากนี้คงยืน

Share