แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาฝากเงิน ฝากเงินกันก่อนใช้ประมวลแพ่ง มีกำหนดอายุความที่จะเรียกคืนได้ภายใน 10 ปี เริ่มนับแต่วันมีสิทธิเรียกร้องเปนต้นไป
ประมวลแพ่ง ม.164 การฝากเงินตามประมวลแพ่งไม่มีกำหนดอายุความไว้โดยฉะเพาะดังนี้ ต้องถือว่ามีอายุความ 10 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินฝากจากจำเลย ๑๐๐๐ บาท โดยกล่าวว่าบิดาโจทก์ได้ฝากเงินนี้ไว้กับจำเลยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยมิได้มีกำหนดเวลาส่งคืนกัน พ.ศ.๒๔๕๘ บิดาโจทก์ตาย เวลานั้นโจทก์ยังเปนเด็กอยู่ ครั้น พ.ศ.๒๔๗๑ โจทก์มีสามีไปขอรับเงินคืน จำเลยไม่ให้และจำเลยให้การตัดฟ้องว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว
ศาลเดิมตัดสินว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีนี้ควรฟังข้อเท็จจริงต่อไปจึงตัดสินให้ส่งสำนวนคืนไปให้ศาลเดิมพิจารณาพิพากษาใหม่
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้เปนเรื่องฝากเงิน ไม่ใช่ฝากทรัพย์อย่างอื่น ตามประมวลแพ่งมิได้กำหนดอายุความไว้โดยฉะเพาะ แต่ตาม ม.๑๖๔ ว่าอายุความนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เปนอย่างอื่น ให้มีกำหนด ๑๐ ปี สัญญาฝากนี้เกิดก่อนใช้ประมวลแพ่ง เพราะฉะนั้นต้องถือว่ามีอายุความ ๑๐ ปี ตามฎีกาที่ ๔๙๒/๑๒๙ ส่วนการที่จะนับอายุความนั้น ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันมีสิทธิเรียกร้อง เงินรายนี้ไม่มีกำหนดส่งคืนกัน สิทธิเรียกร้องจึงตั้งต้นแต่วันฝาก ซึ่งนับมาถึงวันฟ้องเกิน ๑๐ ปีแล้ว จึงตัดสินกลับศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลเดิม