คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9419/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์ของผู้คัดค้านที่ 1 รวม 11 รายการ ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านศาลชั้นต้นนัดไต่สวน ก่อนถึงวันนัดผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านฉบับใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รอสอบวันนัด แต่ในวันนัดศาลชั้นต้นมิได้เบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาสอบถามเกี่ยวกับคำคัดค้านฉบับใหม่ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งให้เบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาสอบถามเรื่องคำคัดค้านฉบับใหม่ แต่ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้แจ้งวันนัดให้ผู้คัดค้านที่ 1 ทราบ หรือมีการเบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาศาลในวันนัดแต่อย่างใดอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. ว่าด้วยการพิจารณาในส่วนของการนั่งพิจารณาซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลมตาม ป.วิ.อ. มาตรา 15 ผู้คัดค้านที่ 1 จึงไม่ทราบวันนัดไต่สวนคำร้องและไม่สามารถนำพยานเข้าไต่สวนตามคำคัดค้านได้ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงมิชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสองมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยให้เพิกถอนคำสั่งและการดำเนินการดังกล่าวของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบเสียได้ แล้วให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติให้ถูกต้องในกระบวนพิจารณาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 208 (2) ประกอบด้วยมาตรา 225

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจาก ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องนางอาหลั่งในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2950/2546 ของศาลชั้นต้น และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินรวม 11 รายการ คือ 1. เงินสดจำนวน 80,000 บาท 2. เครื่องเล่น วี.ซี.ดี. 3. โทรทัศน์ขนาด 25 นิ้ว 1 เครื่อง 4. โทรทัศน์สีขนาด 29 นิ้ว 1 เครื่อง 5. รถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน บล 4304 เชียงใหม่ 6. สิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 147 หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 7. สิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 8. เงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเชียงดาว เลขที่บัญชี 516 – 2 – 07676 – 7 ชื่อบัญชีเด็กหญิง อ. พร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก 9. เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเชียงดาว เลขที่บัญชี 516 – 1 – 29202 – 4 ชื่อบัญชีนางอาหลั่งพร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก 10. เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเชียงดาว เลขที่บัญชี 516 2 1 – 06333 – 9 ชื่อบัญชีนางอาหลั่งหรือเด็กหญิง ห. พร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก 11. เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเชียงดาว เลขที่บัญชี 516 – 2 – 28975 – 9 ชื่อบัญชีนายสุชาติพร้อมดอกเบี้ยเงินฝาก อันเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้มาเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้มีคำสั่งริบทรัพย์สินดังกล่าวให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 29, 31
ศาลชั้นต้นได้สั่งให้ประกาศในหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายแล้ว
นางอาหลั่งซึ่งศาลฎีกาให้เรียกว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
นายสุชาติซึ่งศาลฎีกาให้เรียกว่า ผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้องและคืนทรัพย์สินทั้งหมดตามคำร้องให้แก่ผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สิน 10 รายการ คือ รายการที่ 2 ถึงที่ 11 ตามคำร้องของผู้ร้องให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบยาเสพติด (ที่ถูกตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง, 30) คืนเงินสดจำนวน 80,000 บาท ทรัพย์สินรายการที่ 1 แก่ผู้คัดค้าน (ที่ถูก ยกคำขอให้ริบทรัพย์สินรายการที่ 1 เงินสดจำนวน 80,000 บาท และให้คืนแก่ผู้คัดค้านที่ 2)
ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
ผู้คัดค้านที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์ของผู้คัดค้านที่ 1 รวม 11 รายการ ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 โดยอ้างว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2547 ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 และนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 เมษายน 2547 ต่อมาวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547 ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านฉบับใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2547 จึงให้รอสอบผู้คัดค้านที่ 1 ในวันนัด เมื่อถึงวันนัดปรากฏว่าศาลชั้นต้นไม่ได้เบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาศาลเพื่อสอบถามเกี่ยวกับคำร้องคัดค้านฉบับใหม่ และในวันดังกล่าวผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้คัดค้านที่ 1 ในทรัพย์สินที่ผู้ร้องขอริบอ้างว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาโดยสุจริตและไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 2 และมีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนโดยให้นัดสืบพยานผู้ร้องและผู้ร้องคัดค้านที่ 2 วันที่ 27 มกราคม 2548 เมื่อถึงวันนัดมีผู้ร้องและทนายความของผู้คัดค้านที่ 2 มาศาล ศาลไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จแล้วเห็นว่าตัวผู้คัดค้านที่ 2 ไม่มาศาลถือว่าไม่ติดใจที่จะนำพยานเข้าสืบตามข้อคัดค้านแล้วนัดฟังคำสั่ง เห็นว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2547 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งให้เบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาสอบถามเรื่องคำคัดค้านฉบับใหม่ แต่ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้แจ้งวันนัดให้ผู้คัดค้านที่ 1 ทราบหรือมีการเบิกตัวผู้คัดค้านที่ 1 มาศาลในวันนัดในวันที่ 27 มกราคม 2548 แต่อย่างใด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยการพิจารณาในส่วนของการนั่งพิจารณาซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ผู้คัดค้านที่ 1 จึงไม่ทราบวันนัดไต่สวนคำร้องและไม่สามารถนำพยานเข้าไต่สวนตามคำคัดค้านได้ การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงมิชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสองมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยให้เพิกถอนคำสั่งและการดำเนินการดังกล่าวของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบเสียได้ แล้วให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติให้ถูกต้องในกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208 (2) ประกอบด้วยมาตรา 225
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 และคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาในส่วนของการนั่งพิจารณาแล้วพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ต่อไป

Share