คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ยืมได้รับมอบทรัพย์จากผู้ไห้ยืมแล้วเอาทรัพย์นั้นไปเปนประโยชน์ส่วนตัวเสีย อาดเปนผิดทางอาณาถานยักยอกได้ อ้างฎีกาที่ 961/2474 ,289/2476

ย่อยาว

โจทฟ้องและร้องเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยทำสัญญากับเทศบาลเมืองอุทัยธานิรับเปนผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจากกรมเชื้อเพลิง กรุงเทพฯ จำเลยได้กะทำผิดคือ ๑. ได้ยืมถังเหล็กไส่น้ำมันของเทศบาลไป ๑๘ ถัง เพื่อใส่น้ำมันเชื้อเพลิงจำเลยได้รับมแบถังไปแล้วไม่นำไปใส่น้ำมันกลับทุจริตยักยอกเอาเปนประโยชน์ส่วนตัวเสีย ย. จำเลบทุจริตหลอกลวงฉ้อโกงถังเหล็กใส่น้ำมันของเทศบาลไป ๕๐๐ ถัง ขอให้ลงโทสตามมาตรา ๓๐๔,๓๑๔
จำเลยให้การปติเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาให้ยกฟ้องทั้งสองถาน
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่าข้อหาถานฉ้อโกง จำเลยไม่มีผิดตามฟ้อง ส่วนข้อหาถานฉ้อโกง จำเลยไม่มีผิดตามฟ้อง ส่วนข้อหาถานยักยอกนั้นเห็นว่าการรับทรัพย์ไปโดยการยิมใช้คงรูปก็เป็นการรับมอบหมายเหมือนกัน เมื่อผู้ยืมทุจริตเบียดบังทรัพย์ไปเปนอานาประโยชน์ของตนหรือของคนอื่นเสีย ก็ย่อมเปนฟิดถานยักยอกได้แบะคดีมีข้อเท็จจิงที่จะต้องชี้ขาดต่อไปว่าจำเลยได้ทุจริตเบียดบังถังเหล็ก ๑๘ ไบนั้นจิงหรือไม่ ซึ่งจำเลยนำสืบโต้แย้งในข้อนี้หยู่ จึงพิพากสาให้สาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจิงไนความผิดถานยักยอกแล้วพิพากสาเสียไหม่ นอกนั้นยืนตามสาลชั้นต้น
จำเลยดีกา สาลดีกาเห็นว่าคดีมีปัญหาฉเพาะว่า การได้รับมอบทรัพย์ไปไนการยืมนั้นจะเปนความผิดถานยักยอกทรัพย์อันต้องอาญาได้หรือไม่ สาลดีกาเห้นว่าคดีเช่นนี้อาดเปนความผิดได้ดังคำพิพากสาดีกาที่ ๙๖๑/๒๔๗๔ และ ๘๘๙/๒๔๗๖ จึงพิพากสายืนตามสาลทุธรน์

Share