แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พนักงานบริหารของจำเลยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือระดับต้นระดับกลางและระดับสูง ทุกระดับต้องมีรถยนต์ใช้ในการทำงานให้จำเลย จำเลยช่วยเหลือในเรื่องนี้คือ ระดับต้นให้เงินกู้ซื้อรถยนต์ ระดับกลางเช่นโจทก์ให้เงินค่าระดับบริหารเป็นการจ่ายเหมาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในเรื่องของรถยนต์ทั้งหมด โดยจ่ายให้เป็นการประจำและมีจำนวนแน่นอน หากเดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟก็สามารถเบิกจากจำเลยได้ตามระเบียบเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ส่วนระดับสูงจำเลยจัดรถยนต์ประจำตำแหน่งให้โดยไม่จ่ายเงินค่าระดับบริหารให้อีกดังนั้นประโยชน์ของพนักงานบริหารระดับต้นและระดับสูงที่ได้รับไม่เป็นตัวเงินที่จะนำมาเป็นฐานคำนวณสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับตามกฎหมายแรงงานได้จึงเป็นเรื่องของสวัสดิการอย่างแน่ชัด ส่วนประโยชน์ที่พนักงานบริหารระดับกลางจะได้รับเป็นตัวเงินเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์นั้น ถือได้ว่าเป็นค่าช่วยเหลือหรือเป็นเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการใช้รถยนต์เพื่อทำงานให้จำเลย ไม่ใช่เงินตอบแทนการทำงานโดยตรง แต่เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งจ่ายให้ตามลำดับความสำคัญของตำแหน่ง หากถือเป็นค่าตอบแทนในการทำงานแล้วพนักงานบริหารระดับต้นและระดับสูงย่อมจะเสียเปรียบระดับกลางเงินค่าระดับบริหารที่โจทก์ได้รับจึงไม่ใช่ค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน ไม่อาจนำมารวมกับเงินเดือนเพื่อคำนวณเป็นค่าชดเชยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ ค่าจ้างเดือนละ 55,510 บาทกับเงินระดับบริหารอีกเดือนละ 9,800 บาท ซึ่งเป็นเงินตอบแทนการทำงาน จึงถือว่าเงินส่วนนี้เป็นค่าจ้าง ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุจำเลยจ่ายค่าชดเชยเงินบำเหน็จและเงินรางวัลให้โจทก์แล้วแต่ยังไม่ถูกต้องเพราะจำเลยมิได้นำเงินค่าระดับบริหารมาเป็นฐานในการคำนวณ ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย เงินบำเหน็จและเงินรางวัลที่ขาด
จำเลยให้การว่าเงินค่าระดับบริหารเป็นเงินสวัสดิการที่จำเลยจ่ายให้เฉพาะพนักงานบริหารระดับกลางเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือค่าซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์แทนการที่จำเลยเคยจัดหารถยนต์ให้โจทก์ใช้ในการติดต่อธุรกิจให้จำเลย จำเลยไม่ได้จ่ายให้ตลอดไป ถ้าโจทก์เลื่อนตำแหน่งในระดับสูงขึ้นไปอีก ก็จะไม่ได้รับสวัสดิการนี้ต่อไป เงินค่าระดับบริหารจึงมิใช่ค่าจ้าง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าเงินค่าระดับบริหารเป็นค่าจ้างต้องนำมาคำนวณค่าชดเชย แต่ไม่ใช่เงินเดือนจะนำมาคำนวณเงินบำเหน็จและเงินรางวัล พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เงินค่าระดับบริหารเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพื่อให้โจทก์นำไปซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์เป็นของตนเองเพื่อใช้ในงานของบริษัทและเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ในการทำงานให้จำเลยถ้าหากโจทก์เดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟ โจทก์ก็สามารถเบิกจากจำเลยได้ตามระเบียบเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก เงินค่าระดับบริหารดังกล่าวจำเลยจ่ายให้โจทก์เป็นการประจำและมีจำนวนแน่นอนในลักษณะเหมาจ่ายโดยไม่จำต้องนำใบเสร็จหรือหลักฐานใด ๆ มาแสดงประกอบการจ่าย พนักงานบริหารของจำเลยแบ่งออกเป็น3 ระดับ คือ ระดับต้น ระดับกลางและระดับสูง ทุกระดับต้องมีรถยนต์ใช้ในการทำงานให้จำเลย จำเลยช่วยเหลือโดยพนักงานบริหารระดับต้นให้เงินกู้ซื้อรถยนต์ ระดับกลางให้เงินค่าระดับบริหารระดับสูงจำเลยจัดรถยนต์ประจำตำแหน่งให้โดยไม่จ่ายเงินค่าระดับบริหารให้อีก สำหรับพนักงานบริหารระดับต้นและระดับสูงประโยชน์ที่ได้รับไม่เป็นตัวเงินที่จะนำมาเป็นฐานคำนวณสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับตามกฎหมายแรงงานได้เป็นเรื่องของสวัสดิการอย่างแน่ชัด ส่วนประโยชน์ที่พนักงานบริหารระดับกลางได้รับเป็นตัวเงินเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์เห็นได้ว่าเป็นค่าช่วยเหลือหรือเป็นเงินสวัสดิการเกี่ยวกับรถยนต์เพื่อทำงานให้จำเลย ไม่ใช่เงินตอบแทนการทำงานโดยตรง แต่เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งจ่ายให้ตามลำดับความสำคัญของตำแหน่ง หากถือว่าเป็นค่าตอบแทนในการทำงานแล้ว พนักงานบริหารระดับต้นและระดับสูงย่อมเสียเปรียบระดับกลางซึ่งไม่ชอบด้วยเหตุผล เงินค่าระดับบริหารที่โจทก์ได้รับจึงไม่ใช่ค่าจ้างตามกฎหมายแรงงานไม่อาจนำมารวมกับเงินเดือนเพื่อคำนวณเป็นค่าชดเชยได้
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์