แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คู่ความตกลงท้ากันให้ถือเอาผลของคำพิพากษาในคดีอื่นที่เกี่ยวพันกันเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ โดยมิได้ระบุว่าผลคำพิพากษาคดีดังกล่าวหมายถึงผลคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่านั้น จึงเป็นที่เห็นได้ว่าคู่ความมุ่งประสงค์ที่จะผูกพันกันตามคำพิพากษาที่มีผลบังคับกันได้โดยเด็ดขาด ซึ่งหมายถึงผลคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ตาม มิใช่ผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการที่รถโดยสารปรับอากาศของโจทก์ถูกรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นผู้ขับ และจำเลยที่ 3เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนชนโดยละเมิดทำให้เสียหายจำนวน 522,500 บาท
จำเลยทั้งสามให้การว่า เหตุรถยนต์ชนกันไม่ใช่เกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 แต่เกิดจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์ของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ชั้นชี้สองสถานศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า 1.จำเลยที่ 1ขับรถยนต์โดยประมาทหรือไม่ 2.ค่าเสียหายมีเพียงใด 3.จำเลยที่ 3จะต้องรับผิดต่อโจทก์ในวงเงินเท่าใด สำหรับประเด็นข้อพิพาทข้อ 1นั้น คู่ความขอถือเอาผลคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525เป็นข้อแพ้ชนะคดี จึงเหลือเฉพาะประเด็นข้อ 2 และ ข้อ 3 ซึ่งคู่ความต้องนำสืบกันในคดีนี้ ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525 ดังกล่าว คือคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 24777/2528…แล้วศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องคดีนี้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุที่รถยนต์ชนกันครั้งนี้นอกจากโจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แล้วจำเลยที่ 3 ก็ได้เป็นโจทก์ฟ้องนายบุญสันต์ ศรีแนบ ลูกจ้างคนขับรถยนต์โดยสารของโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยที่ 1 โจทก์คดีนี้เป็นจำเลยที่ 2 และบริษัทขนส่งจำกัดเป็นจำเลยที่ 3 ขอให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 3เช่นกัน ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525 ของศาลชั้นต้นและตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 29 กันยายน 2526 คู่ความแถลงร่วมกันว่า สำหรับประเด็นข้อ 1 ที่ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดย…ประมาทหรือไม่นั้น คู่ความขอถือเอาผลคำพิพากษาของคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525 เป็นข้อแพ้ชนะ ดังนี้ คู่ความจึงต้องผูกพันตามคำแถลงดังกล่าว กรณีถือได้ว่าเป็นคำท้าว่า หากนายบุญสันต์ ศรีแนบ คนขับรถยนต์โดยสารของโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีนี้ โจทก์ก็ต้องยอมแพ้คดีนี้ ปรากฏว่าต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาในคดีดังกล่าวแล้วให้นายบุญสันต์แพ้คดี ปัญหาในชั้นนี้มีว่าศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้โจทก์คดีนี้แพ้คดีโดยไม่รอฟังผลคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525 หมายเลขแดงที่ 24777/2528 ดังกล่าวให้ถึงที่สุดเสียก่อนได้หรือไม่เห็นว่า ข้อความที่คู่ความแถลงท้ากันว่า คู่ความขอถือเอาผลคำพิพากษาของคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525เป็นข้อแพ้ชนะนั้น คำว่า ผลคำพิพากษาของคดีดังกล่าว มิได้ระบุว่าผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น ทั้งเป็นที่เห็นได้ว่าคู่ความย่อมมุ่งประสงค์ที่จะผูกพันกันตามคำพิพากษาที่มีผลบังคับกันได้โดยเด็ดขาดแล้ว ฉะนั้นผลคำพิพากษาของคดีดังกล่าวจึงหมายถึงผลคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาก็ตาม มิใช่ผลคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดศาลชั้นต้นก็ต้องรอฟังผลคำพิพากษาถึงที่สุดของคดีดังกล่าวเสียก่อน จึงจะพิจารณาพิพากษาคดีนี้ต่อไปได้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่เมื่อคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10299/2525 หมายเลขแดงที่ 24777/2528 ของศาลชั้นต้นถึงที่สุดแล้ว