แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้ออกเงินชำระหนี้ให้แก่ผู้มีชื่อแทนโจทก์ โจทก์จึงยกที่ดินพิพาทให้จำเลยเป็นการตอบแทน จึงไม่ถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์จะมาขอถอนคืนการให้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยกที่ดินสวนยางให้จำเลยโดยเสน่หา ต่อมาจำเลยขับไล่โจทก์และภริยาซึ่งเป็นบิดามารดาของจำเลยเองออกจากบ้าน และด่าว่าโจทก์ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง และหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง ขอให้พิพากษาให้จำเลยคืนสิทธิครอบครองในที่ดินและบ้านแก่โจทก์ ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ และห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ยกที่ให้จำเลยโดยเสน่หา แต่โจทก์ยอมสละสิทธิครอบครองที่ดินและบ้านให้จำเลยเพราะจำเลยออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ ไม่เคยขับไล่โจทก์ และไม่เคยหมิ่นประมาทโจทก์และมารดา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ออกเงินชำระหนี้ให้แก่นายเจือกและนายกล่ำแทนโจทก์จริง เมื่อจำเลยออกเงินชำระหนี้ให้แทนโจทก์แล้ว โจทก์จึงยกที่ดินพิพาทให้จำเลย แล้ววินิจฉัยว่า เมื่อคดีฟังว่า โจทก์มิได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยโดยเสน่หา แต่เป็นการยกที่ให้เพื่อตอบแทนในการที่จำเลยออกเงิน ๒๖,๐๐๐ บาท ชำระหนี้แทนโจทก์ เช่นนี้ คดีก็ไม่มีเหตุที่โจทก์จะมาขอถอนคืนการให้ตามที่ฟ้องได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยถึงสาเหตุทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องเนรคุณระหว่างโจทก์จำเลยอีกต่อไป
พิพากษายืน