คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัท ค. ขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ “วิธีการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเลและอุปกรณ์สำหรับการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเล” โจทก์ซึ่งประกอบกิจการนำเที่ยวโดยการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเลถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรพิพาท และได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่มีการรับจดทะเบียนสิทธิบัตรดังกล่าว นับเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนสิทธิบัตรได้ตาม พ.ร.บ. สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคสอง
โจทก์มีพยานซึ่งอยู่ในวงการดำน้ำมาเบิกความชัดเจนว่าในส่วนของวิธีการตามข้อถือสิทธิในสิทธิบัตรมีการใช้กันอย่างแพร่หลายแล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร พยานหลักฐานโจทก์ได้แสดงถึงรายละเอียดของระบบการทำงานของอุปกรณ์เดินใต้น้ำที่มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อถือสิทธิตามสิทธิบัตรพิพาท โจทก์หาจำต้องนำสืบแยกแสดงขั้นตอนต่าง ๆ ตามลำดับทั้ง 10 ขั้นตอน ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 รวมทั้งรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 2 ถึงข้อ 7 และกล่าวถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าใช้ร่วมกันทั้งหมดหรือไม่อย่างไร กรณีที่มีการนำระบบและอุปกรณ์มาใช้กับนักท่องเที่ยวเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการใช้แพร่หลายอยู่แล้วในราชอาณาจักรตามมาตรา 6 วรรคสอง (1)

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้พิพากษาว่า สิทธิบัตร “วิธีการชมเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเลและอุปกรณ์สำหรับการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเล” ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และให้เพิกถอนสิทธิบัตรดังกล่าว
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ยกเว้นในส่วนของคำขอท้ายฟ้องที่ให้จำเลยที่ 2 รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียม และไม่รับคำฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ทั้งหมด
จำเลยที่ 2 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา นายฉลาด นายดนัย และนายบริสุทธิ์ ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม และบริษัทเดอะ เค คัมปะนี จำกัด ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่สาม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต โดยให้เรียกว่า โจทก์ร่วมที่ 1 โจทก์ร่วมที่ 2 โจทก์ร่วมที่ 3 และผู้ร้องสอด ตามลำดับ
ผู้ร้องสอดให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ เลขที่สิทธิบัตร 9725 เลขที่คำขอ 037838 ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์ “วิธีการชมเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเลและอุปกรณ์สำหรับการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเล” ของผู้ร้องสอด ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องสอดและจำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องสอดประการแรกมีว่า โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ทั้งสองบรรยายฟ้องและนำสืบว่า โจทก์ทั้งสองประกอบกิจการนำเที่ยว ต่อมาผู้ร้องสอดแจ้งความร้องทุกข์ และเจ้าพนักงานตำรวจได้จับกุมโจทก์ทั้งสอง ทำให้โจทก์ทั้งสองซึ่งประกอบกิจการนำเที่ยวโดยการเดินชมทัศนียภาพบนพื้นทะเลได้รับความเสียหาย ไม่สามารถประกอบกิจการดังกล่าว จึงเห็นได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรพิพาท และได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่มีการรับจดทะเบียนสิทธิบัตรดังกล่าว นับเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียที่จะฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนสิทธิบัตรได้ ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคสอง ซึ่งบุคคลผู้มีส่วนได้เสียนี้หาได้จำกัดเฉพาะในบุคคลตามที่ผู้ร้องสอดอุทธรณ์แต่อย่างใด คำพิพากษาศาลฎีกาที่ผู้ร้องสอดอ้างมานั้น ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ จึงไม่อาจนำมาเทียบเคียงได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องสอดในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 และผู้ร้องสอดประการสุดท้ายมีว่า การประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรพิพาทเป็นการประดิษฐ์ที่มีหรือใช้แพร่หลายอยู่แล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตรหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มีพยานซึ่งอยู่ในวงการดำน้ำมาเบิกความชัดเจนว่า ในส่วนวิธีการตามข้อถือสิทธิของสิทธิบัตรนี้ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่แล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตรและถือว่าพยานหลักฐานดังกล่าวของโจทก์ทั้งสองได้แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของระบบการทำงานของอุปกรณ์เดินใต้น้ำที่มีลักษณะเป็นเช่นเดียวกับข้อถือสิทธิตามสิทธิบัตรพิพาทแล้ว โดยโจทก์ทั้งสองหาจำต้องนำสืบแยกแสดงเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ตามลำดับทั้ง 10 ขั้นตอน ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 รวมทั้งรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 2 ถึงข้อ 7 และกล่าวถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าใช้ร่วมกันทั้งหมดหรือไม่อย่างไร ส่วนกรณีที่มีการนำระบบและอุปกรณ์มาใช้กับนักท่องเที่ยวเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการใช้แพร่หลายอยู่แล้วในราชอาณาจักรตามมาตรา 6 วรรคสอง (1) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องสอด และจำเลยที่ 2 ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share