คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3647/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะถูกคำสั่งลงโทษไล่ออกจากการเป็นลูกจ้างของบริษัท ก. แต่โจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่ง คำสั่งลงโทษไล่ออกจึงยังไม่เป็นที่สุด จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งต่อมาบริษัท ก. ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษไล่ออกดังกล่าวโดยลงโทษโจทก์ด้วยการตัดเงินเดือนและให้โจทก์กลับเข้าทำงานตามปกติโดยนับอายุงานต่อเนื่อง รวมทั้งวันที่โจทก์ได้หยุดงานไปในระหว่างถูกไล่ออกด้วย จึงถือได้ว่าโจทก์ถูกลงโทษเพียงตัดเงินเดือนมิได้ถูกลงโทษไล่ออก โจทก์จึงไม่ขาดคุณสมบัติหรือพ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกและกรรมการของสมาคมหรือสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย
จำเลยเป็นนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ โจทก์เป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมดังกล่าว เมื่อจำเลยใช้อำนาจของนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ จำหน่ายชื่อโจทก์ออกจากการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยและยืนยันว่าการใช้อำนาจดังกล่าวถูกต้อง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยของโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และเป็นกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีคำสั่งลงโทษไล่โจทก์ออกจากการเป็นลูกจ้าง โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งไล่โจทก์ออกโดยเปลี่ยนเป็นโทษตัดเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 3 เดือนแทน และให้โจทก์กลับเข้าทำงานตามปกติโดยจะนับอายุงานต่อเนื่อง ต่อมาจำเลยในฐานะนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจได้มีหนังสือแจ้งโจทก์ว่าการที่โจทก์พ้นสภาพการเป็นพนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีผลทำให้พ้นสภาพการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย แม้ต่อมาภายหลังบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยกเลิกคำสั่งไล่ออกและรับโจทก์กลับเข้าทำงานโดยจะนับอายุการทำงานต่อเนื่องก็ไม่ทำให้การเป็นพนักงานและกรรมการมีผลเปลี่ยนแปลงกลับคืนสภาพการเป็นพนักงานและกรรมการได้ โจทก์อุทธรณ์…จำเลยมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบถึงผลการอุทธรณ์โดยยืนยันคำวินิจฉัยเดิม การวินิจฉัยและคำยืนยันดังกล่าวไม่ชอบ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายขาดประโยชน์ที่จะสามารถดำเนินการได้ตามฐานะของสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เนื่องจากมีการดำเนินการหลายอย่างที่โจทก์ได้ดำเนินการในช่วงระยะเวลาดังกล่าวซึ่งจะต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และยังมีผลผูกพันมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยและคำพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ รส 0612/07464 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2541 และ รส 0612/06413 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542
จำเลยให้การว่า คำวินิจฉัยและคำพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายและฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ จำเลยแถลงรับว่าเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 ถึง 3 และข้อบังคับสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ปรับปรุงแก้ไข พ.ศ.2539 ถูกต้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม และข้อบังคับสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยกำหนดให้ผู้จะเป็นกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ต้องเป็นสมาชิกของสมาคม และการเป็นสมาชิกสมาคมต้องเป็นพนักงานประจำหรือพนักงานรายปีของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อโจทก์ถูกคำสั่งที่ กบ. 02-1-01/154 ลงโทษไล่ออกจากการเป็นลูกจ้างของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ย่อมไม่ใช่พนักงานของบริษัทดังกล่าวอีกต่อไป จึงพ้นจากการเป็นสมาชิกและกรรมการของสมาคมหรือสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยไปพร้อม ๆ กัน แม้ภายหลังจะได้มีคำสั่งที่ กบ. 02-1-01/451 ยกเลิกคำสั่งไล่ออกเป็นตัดเงินเดือนโดยให้นับอายุงานต่อเนื่อง แต่สภาพการเป็นพนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ของโจทก์เป็นสภาพของความเป็นจริง ไม่ใช่อายุงาน ไม่อาจนับต่อเนื่องกันได้ ทั้งระเบียบการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมหรือสหภาพแรงงานตามฟ้องไม่ได้กำหนดให้การเป็นสมาชิกหรือกรรมการเกิดขึ้นมาใหม่เองได้อีก การย้อนหลังของการเป็นสมาชิกหรือกรรมการย่อมมีไม่ได้อยู่ในตัว คำวินิจฉัยของจำเลยที่ รส 0612/07464 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2541 จึงชอบแล้ว กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าหนังสือยืนยันของจำเลย ที่ รส 0612/06413 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า…เห็นว่า แม้โจทก์จะถูกคำสั่งที่ กบ. 02-1-01/154 ลงโทษไล่ออกจากการเป็นลูกจ้างของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) แต่โจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่ง คำสั่งลงโทษไล่ออกจึงยังไม่เป็นที่สุด จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งต่อมาบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีคำสั่งที่ กบ. 02-1-01/451 ให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษไล่ออกดังกล่าว โดยให้ลงโทษโจทก์ด้วยการตัดเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 3 เดือนแทน และให้โจทก์กลับเข้าทำงานตามปกติโดยจะนับอายุงานต่อเนื่องรวมทั้งวันที่โจทก์ได้หยุดงานไปในระหว่างที่ถูกไล่ออกด้วย ตามที่ปรากฏในเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 อันเป็นการเปลี่ยนแปลงคำสั่งลงโทษเดิมจากไล่ออกเป็นตัดเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 3 เดือน และถือว่าคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนเป็นที่สุดแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ถูกลงโทษเพียงตัดเงินเดือน มิได้ถูกลงโทษไล่ออก โจทก์จึงยังมีสถานะเป็นพนักงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มาตลอด ไม่เคยพ้นจากการเป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าว โจทก์จึงไม่ขาดคุณสมบัติหรือพ้นสภาพการเป็นสมาชิกและกรรมการของสมาคมหรือสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย คำวินิจฉัยที่ รส 0612/07464 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2541 และคำพิจารณาอุทธรณ์ที่ รส 0612/06413 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542 ของจำเลยจึงไม่ถูกต้อง อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
สำหรับปัญหาตามคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์นั้น เห็นว่า จำเลยเป็นนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ โจทก์เป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย หนังสือเลขที่ รส 0612/07464 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2541 และหนังสือที่ รส 0612/06413 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542 ที่จำเลยมีไปยังโจทก์ลงลายมือชื่อจำเลยในฐานะนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจ และหนังสือที่ รส 0612/07464 ใช้ชื่อเรื่องว่า การพ้นสภาพการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยมีใจความว่า ตามที่บริษัทการบินไทย จำกัด ได้มีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากการเป็นพนักงานตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2541 นายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์พ้นจากการเป็นพนักงานย่อมมีผลทำให้พ้นสภาพการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคม แม้ต่อมาบริษัทดังกล่าวจะได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งไล่ออกและรับโจทก์กลับเข้าทำงานตามเดิมก็ไม่ทำให้การเป็นพนักงานและกรรมการมีผลเปลี่ยนแปลงกลับคืนสภาพการเป็นพนักงานและกรรมการในช่วงเวลาที่ยังมิได้ออกคำสั่งฉบับหลัง หากโจทก์ประสงค์จะเข้าเป็นสมาชิกสมาคม โจทก์จะต้องยื่นใบสมัครและดำเนินการตามข้อบังคับของสมาคมข้อ 8 หนังสือที่ รส 0612/06413 ก็ใช้ชื่อเรื่องว่า อุทธรณ์การพิจารณาของนายทะเบียน และมีข้อความว่าตามที่โจทก์อุทธรณ์กรณีนายทะเบียนแจ้งการพ้นสภาพการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยนั้น นายทะเบียนได้เสนอเรื่องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาแล้วเห็นว่าสมาชิกภาพของโจทก์สิ้นสุดลงตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2534 ดังนี้ เห็นได้ว่า เป็นกรณีที่จำเลยใช้อำนาจของนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจจำหน่ายชื่อโจทก์ออกจากการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยและยืนยันว่าการใช้อำนาจดังกล่าวถูกต้อง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิการเป็นสมาชิกและกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยของโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนได้
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยที่ รส 0612/07464 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2541 และคำพิจารณาอุทธรณ์ที่ รส 0612/06413 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2542 ของจำเลยเสีย.

Share