คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซื้อที่ดินมาโดยเจตนาใช้ทำนา ไม่ใช่ซื้อไว้เพื่อขาย แต่ได้ขายที่ดินไปเพราะที่ดินไม่เหมาะสมจะทำนาต่อไป และในการขายก็ขายไปทั้งแปลงโดยมิได้ปรับปรุงหรือจัดสรรที่ดินขายหากำไร ที่โจทก์ขายได้เงินมากกว่าตอนที่ซื้อมาเนื่องจากที่ดินราคาสูงขึ้นตามกาลเวลาอันเป็นเรื่องปกติ การขายที่ดินของโจทก์ จึงไม่ใช่การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรอันจะถือว่าเป็นการค้าอสังหาริมทรัพย์ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภท 11 แห่งประมวลรัษฎากร
โจทก์ไม่ได้แสดงรายการเงินได้จากการขายที่ดินไว้ในแบบรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ประจำปี ตามระเบียบที่อธิบดีกรมสรรพากรได้ประกาศ กำหนดไว้ อันทำให้โจทก์ไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปรวม คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) แต่ใน ระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น ซึ่งโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน2520 ออกใช้บังคับ กำหนดว่า ถ้าผู้มีเงินได้ได้ยื่นรายการเพิ่มเติมให้เป็นไป ตามระเบียบดังกล่าว ภายในเดือนมกราคม 2521 ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ เขตท้องที่หรือกองคลังกรมสรรพากรก็ให้ถือว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบแล้ว และเงินได้นั้นให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมพิเคราะห์สำเนาภาพถ่ายแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด. 9 ซึ่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ภาษี 5 รับรองสำเนาถูกต้องที่โจทก์ยื่นมาพร้อมกับ ฎีกาและใบรับแบบไม่มีเงินเรียกเก็บ ซึ่งกรมสรรพากรออกให้โจทก์และ โจทก์ยื่นพร้อมคำแถลงการณ์ปิดสำนวนในศาลชั้นต้นประกอบกับวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ปฏิบัติตามประกาศของคณะปฏิวัติแล้ว เงินได้ของโจทก์จากการ ขายที่ดิน ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ได้

Share