คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำหนังสือสัญญายกทรัพย์ให้โดยมีข้อความตัดญาติมิให้ฟ้องร้องเรียกทรัพย์ และผู้ยกทรัพย์ให้ก็ยังปกครองทรัพย์ตลอดมานั้น ต้องถือว่าต้องการยกให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว หนังสือนั้นย่อมเป็นพินัยกรรม์ ไม่ใช่หนังสือยกทรัพย์ให้ในขณะมีชีวิต

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ภริยาโจทก์มีที่ดินและบ้านเรือนรวมราคา ๘๐๐ บาทซึ่งเป็นมฤดกได้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่กับโจทก์และภริยาผู้วายชนม์ได้ปกครองไว้ ไม่ยอมส่งให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่านางปุ๊ดผู้วายชนม์ได้ทำหนังสือยกที่รายพิพาทให้ภริยาจำเลยโดยเด็ดขาดแล้ว ภริยาจำเลยได้ครอบครองตลอดมารวม ๑๕ ปี จึงวายชนม์ ทรัพย์เหล่านี้จึงเป็นมฤดกตกได้แก่จำเลย ศาลชั้นต้นพิจารณาวินิจฉัยว่า เมื่อนางปุ๊ดทำสัญญายกทรัพย์ให้ภริยาจำเลยนั้น นางปุ๊ดก็ยังครอบครองทรัพย์ที่ยกให้นั้นอยู่ตลอดมา และสัญญานี้มิได้จดทะเบียนการให้จึงไม่สมบูรณ์ พิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าหนังสือยกให้ใช้ไม่ได้สำหรับที่บ้านและเรือนกับยุ้งข้าว แต่สำหรับที่นาเป็นที่มือเปล่า แม้หนังสือยกให้จะใช้ไม่ได้ก็ได้แสดงเจตนาสละการครอบครองแล้ว และได้ความว่าผู้รับการให้ได้เข้าครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมา ๑๐ ปี เศษแล้ว จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ฉะเพาะข้อที่ให้จำเลยส่งนารายนี้ นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญามอบทรัพย์ที่จำเลยอ้างนั้นได้ความว่า ต้องการตัดญาติมิให้มาฟ้องร้องเอาทรัพย์นั้นไปข้อตัดญาตินี้แสดงชัดว่า เจ้าของทรัพย์ตั้งใจจะให้ทรัพย์ต่อเมื่อทรัพย์เป็นมฤดกคือให้เมื่อตายแล้ว มิใช่ยกให้เด็ดขาดแต่ขณะที่ทำหนังสือนั้น และได้ความตามสำนวนอีกว่า ตั้งแต่ทำหนังสือแล้ว นางปุ๊ด ก็ยังครอบครองทรัพย์เหล่านี้อยู่ตลอดมาจนวายชนม์ ต้องถือว่าทรัพย์เหล่านี้ยังคงเป็นของนางปุ๊ดอยู่ตลอดมา ทรัพย์นั้นจึงตกเป็นมฤดก และโจทก์มีสิทธิที่จะได้มฤดกนี้ตามกฎหมาย จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share